
18 สิงหาคม 2568 นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” ที่มีผู้มาเเจ้งความดำเนินคดี ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ ว่า ขณะนี้ทางคณะทำงานอัยการเเละตำรวจไซเบอร์ ที่ทางอัยการสูงสุดตั้งขึ้น ได้เริ่มดำเนินมีการสอบสวนพยานไปเเล้ว รวมถึงมีการไปสอบถ้อยคำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มา ตอนนี้กำลังเตรียมจะสอบผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นผู้ที่ไปเเจ้งความที่ตำรวจไซเบอร์
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า การสอบผู้ที่แจ้งความ เป็นการสอบอีกครั้ง เนื่องจากถึงเเม้จะได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปเเล้ว เเต่คณะทำงานเราตั้งขึ้นโดยคำสั่งอัยการสูงสุด ตาม ป.วิอาญามาตรา 20 ให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเเต่เพียงผู้เดียว จึงต้องมีการสอบรายละเอียดเข้าสำนวนเพิ่มอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าข้อความคลิปเสียง หรือเฟซบุ๊ก ดังกล่าวเป็นของฮุนเซนจริง
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า คลิปเสียงเเละการปล่อยคลิปดังกล่าวนั้น กระทบความมั่นคง ทำให้เกิดความวุ่นวายกระด้างกระเดื่องในบ้านเมือง อันเป็นความผิดตามมาตรา ป.วิอาญามาตรา 116 หรือไม่ เเละถ้าเข้าข่าย ผลปรากฎคือ คนฟังคลิปเกิดความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล จนอาจจะเกิดการชุมนุมต่อต้านการบริหารงาน เกิดผลเสียหาย นอกจากจะผิดตามมาตรา 116 เเล้ว การนำมาเผยเเพร่เพื่อให้เกิดผลกระทบ ก็จะผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วย ตรงนี้คณะะทำงานจะต้องสอบ แม้เราจะรู้หรือเชื่ออยู่เเล้วเหมือนคนทั่วไปว่า เป็นคลิปจริง เเต่คณะทำงานเราก็จะต้องสอบให้ได้ความจริงที่สุด
ส่วน น.ส.แพทองธาร จะมีความผิดด้วยหรือไม่ ตรงนี้เป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย โดยรวมจะต้องสอบพยานเพิ่มอีก 3-4 ปาก คาดการไว้ว่าจะให้เสร็จสิ้นเดือน ส.ค. เเละจะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุดภายในต้นเดือนโดยจะไม่เกิน 10 ก.ย.นี้
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า การดำเนินคดีตามกฏหมายไทยยอมรับว่า เป็นการดำเนินคดีค่อนข้างยาก เนื่องจากจะต้องมีพยานหลักฐานเชื่อว่า ได้มีการกระทำผิดด้วย อัยการสูงสุดถึงจะมีคำสั่ง ถ้าอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีก็ยุติ เเต่ถ้าสั่งฟ้องก็สามารถไปขอหมายจับจากศาลอาญาได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอาญาในการออกหมายจับหรือไม่ ถ้าศาลอาญาอนุมัติให้ออกหมายจับ ทางตำรวจก็จะต้องนำหมายจับดังกล่าวส่งไปยังช่องทางอินเตอร์โพล และทางตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลก็ต้องไปพิจารณาว่า จะออกหมายจับเป็นหมายแดงหรือไม่อีก แต่ก็ยังถือว่ามีช่องทางที่เราพอจะทำได้ ดีกว่าไม่มีหนทางใดในการดำเนินคดีกับการกระทำความผิดหลายคดี ที่ตอนนี้มีคนร้องทุกข์กล่าวโทษในเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอื่นอีก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า ถ้าอินเตอร์โพลออกหมายจับให้ แม้ในทางปฏิบัติเราจะไปจับกุมตัวเขาในประเทศไม่ได้ แต่จะส่งผลให้ผู้ออกหมายจับ เดินทางออกนอกประเทศได้ลำบาก สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับอินเตอร์โพลว่า จะออกหมายเเดงให้หรือไม่ เพราะเขาอาจมองเป็นเรื่องสงครามหรือการเมือง ขึ้นอยู่กับเราเเสดงพยานหลักฐานให้เขาทราบได้หรือไม่ว่า ผู้ต้องหาที่เราขอได้กระทำผิดกฎหมายในประเทศเราชัดเจน แสดงให้เห็นไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องการยิงเข้ามา ถูกบ้านเรือนคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามต้องเสียชีวิต ตรงนี้เป็นอีกเรื่องเราก็ต้องดำเนินการ บังคับตามกฎหมายของประเทศเราก่อน