
17 สิงหาคม 2568 พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เดินหน้ามาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ด้วยการนำเทคโนโลยี Liveness Detection มาตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์ในขั้นตอน ลงทะเบียนซิมการ์ด ของทุกค่ายมือถือ อาทิ True และ AIS เพื่อป้องกันการสวมรอย ลดความเสี่ยงจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ รวมทั้งการก่อวินาศกรรม หรือก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ซิมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นส่วนประกอบ
โดยมาตรการนี้ครอบคลุมผู้ใช้บริการรายใหม่ (ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน) และผู้ใช้เดิมที่เปลี่ยนซิมแต่ใช้หมายเลขเดิม เริ่มใช้งานวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ทั่วประเทศ
สำหรับเทคโนโลยี Liveness Detection เป็นเทคโนโลยีตรวจสอบว่าผู้ยืนยันตัวตนเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือหน้ากาก 3 มิติ
วิธีการระบบจะสแกนใบหน้า จะขอให้ผู้ใช้กะพริบตา หรือหยุดนิ่ง คล้ายการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร ต่างจากวิธีเดิมที่มีเพียงถ่ายรูปก็สามารถลงทะเบียนได้ ทำให้มิจฉาชีพใช้ภาพหรือวิดีโอบุคคลอื่นมาสวมรอย
โดยเทคโนโลยีนี้ใหม่นี้เป็นมาตรการ ป้องกันการปลอม หรือสวมรอยลงทะเบียนซิม แล้วนำมาก่ออาชญากรรมออนไลน์ และการกระทำผิดรูปแบบอื่น เช่น การก่อความไม่สงบ หรือก่อวินาศกรรม โดยใช้ซิมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือ เช่น ที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการค่ายมือถือ ศูนย์บริการ รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าย่อยทั่วประเทศ
โดยผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยสูงสุด ตามข้อกำหนดของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเอกสารในการลงทะเบียนให้ใช้ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ แบ่งตามกลุ่มผู้ใช้บริการ ดังนี้
“กสทช. ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของผู้บริโภค และยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการโทรคมนาคม มาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์และอาชญากรรมต่างๆที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป็นเครื่องมือ พร้อมขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว