svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

มาริษ เสนอภาคีออตตาวา ทบทวนให้เงินบริจาค “กัมพูชา” กู้ทุ่นระเบิด

"มาริษ" เสนอภาคีออตตาวา ทบทวนให้เงินช่วย “กัมพูชา” กู้ทุ่นระเบิด หลังไม่จริงใจเก็บกู้ ลั่น! รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือชาติพันธมิตรกู้ระเบิด เพื่อมนุษยชาติ

16 สิงหาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวก่อนการนำคณะทูตานุทูตจากประเทศอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์บนภูมะเขือ ซึ่งพบเจอทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่เพิ่งถูกฝังโดยฝั่งกัมพูชาว่า กระทรวงต่างประเทศ หวังว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะทำให้คณะทูตานุทูตทุกคน มีความเข้าใจปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดขึ้น 5 ครั้งแล้ว จนทหารเสียขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะผิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และอนุสัญญาออตตาวา

นายมาริษ ยังกล่าวว่า ปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น และไทยได้ขอให้กัมพูชาร่วมกันเก็บกู้ เพราะทุกฝ่ายต้องทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวา โดยเสนอให้ทบทวนโครงการกู้ทุ่นระเบิดใหม่ เนื่องจากตนทราบว่า มีหลายประเทศในภาคีให้ความช่วยเหลือบริจาคเงินโครงการดังกล่าวให้แก่ทางกัมพูชา

มาริษ เสนอภาคีออตตาวา ทบทวนให้เงินบริจาค “กัมพูชา” กู้ทุ่นระเบิด

แต่เนื่องจากทุ่นระเบิดที่ฝังใหม่ เป็นการฝังในดินแดนไทย ถือเป็นการละเมิดพื้นที่และกฎหมายสากล และถือว่า กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค และอยากให้กัมพูชาเคารพข้อตกลงตามกฎบัตรอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงแสดงความจริงใจ เพื่อลดความตึงเครียดในบริเวณชายแดน เพราะหากยังมีกรณีการเหยียบทุ่นระเบิด สถานการณ์ก็จะแย่ลง ดังนั้น ต้องมีการร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเป็นการลดความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ

นายมาริษ ย้ำอีกว่า รัฐบาลไทยยึดมั่นในกฎหมายสากล และอนุสัญญาออตตาวา โดยไทยจะยึดมั่นในหลักการ แม้กัมพูชายังไม่มีความพร้อม และไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกประเทศที่เป็นพันธมิตร เพื่อปฏิบัติการกู้ระเบิด เพราะเป็นภารกิจเพื่อมนุษยชน

ส่วนรัฐบาลไทยกังวลจะแพ้สงครามข่าวสารจากกัมพูชาหรือไม่นั้น นายมาริษ ย้ำว่า รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศสื่อสารผ่านช่องทางทางการและโซเชียลมีเดียด้วย แต่การใช้โซเชียลมีเดีย ยิ่งมีการเผยแพร่ข่าวปลอม ยิ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้ง และความยากลำบากของทั้ง 2 ประเทศ เพราะโซเชียลมีเดียไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไทยจะสื่อสารผ่านช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องทุ่นระเบิด แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชายแดน ทำให้กัมพูชาได้พยายามนำเรื่องนี้ไปสู่ศาลโลก แต่ไทยก็ไม่เห็นด้วยนั้น นายมาริษ ชี้แจงว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 118 ประเทศ ที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลก และเชื่อว่า ประเด็นเริ่มต้นจาก 2 ประเทศ ก็ต้องจบที่ 2 ประเทศเช่นกัน การไปขึ้นศาลโลกไม่ได้แสดงความจริงใจในการเจรจา และไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากลำบากที่มีด้วยกัน เหมือนพี่น้องไปขึ้นศาลด้วยกัน ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในใจได้

ขณะที่ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมถึงสต็อกทุ่นระเบิดสั่งหารของฝั่งกัมพูชาว่า เป็นทุ่นระเบิดสังหารที่เป็นสต๊อกใหม่ของกัมพูชา ซึ่งพบทั้งในพื้นที่ที่เคลียร์ไปแล้ว และยังไม่ได้เคลียร์ รวมถึงยังถูกฝังในเขตแดนไทย แต่ยืนยันว่า ประเทศไทย ได้เคลียร์ทุ่นระเบิดสังหารไปหมดแล้ว