รองหัวหน้า พปชร.ชงยกเลิกข้อตกลง GBC หลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลง
รองหัวหน้า พปชร.ชงรัฐบาลยกเลิกข้อตกลง GBC 13 ข้อ หลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้จากนี้ควร “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” บี้ กต.ต้องรีบแอ๊คชั่นฟ้องนานาประเทศ
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดซ้ำ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นายว่า ส่วนตัวเห็นว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความจริงใจของกัมพูชาไม่มีแล้ว พยายามที่จะละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ข้อตกลงในการประชุม GBC ก็ควรจะยกเลิก เพราะคุยมาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้มีผลอะไร และเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ควรจะมีแอ็คชั่นโดยเร็ว ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการช้ามาโดยตลอด ดังนั้น ต้องรีบแจ้งไปยังนานาประเทศโดยเร็ว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงอีกแล้ว และถือว่า ไทยมีความชอบธรรม ที่จะต้องปกป้องตัวเอง และปกป้องอธิปไตย ดังนั้น ข้อตกลงต่าง ๆ ก็จะต้องยกเลิกไป เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
"ส่วนตัวคิดว่าการเจรจา ต้องยกเลิกทั้งหมด ข้อตกลง 13 ข้อเราไม่ต้องคุยแล้ว ต่อไปนี้ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน เราจะปล่อยให้ทหารของเรา ต้องสูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิตไปโดยไม่มีวันสิ้นสุดไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นประชาชนของเรา ก็จะขวัญเสีย เพราะขนาดรัฐบาล ประกาศให้ประชาชนกลับบ้านกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจนประชาชน ต้องอพยพออกมาจากบ้านอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น ต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนในเรื่องของความปลอดภัยบริเวณชายแดนด้วย" รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
ส่วนกรณีที่ทางกองทัพประกาศรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงผ่านเพจกองทัพ นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า กรณีดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลล่าช้า และไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลต้องรอให้ทหารมาเปิดรับบริจาคเอง เพราะรัฐบาลมีงบฉุกเฉิน และสามารถอนุมัติได้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวคิดว่า เพราะรัฐบาลล่าช้า ทางกองทัพก็เลยต้องมาขอรับบริจาค
นายสุรเดช กล่าวว่ารัฐบาลต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกัมพูชาที่พยายามลอบกัดทุกด้าน โดยเฉพาะที่มีการปล่อยโดรนเข้ามาในอาณาเขตของไทยจำนวนมาก ซึ่งประชาชนในพื้นที่ก็หวาดผวา ดังนั้น ควรจะเร่งจัดการให้เด็ดขาด และความจริงแล้ว โดรนพวกนี้เราต้องยิงให้ร่วงให้หมด ไม่ต้องสนใจแล้ว เพราะมันอันตรายมาก และอย่างที่ตนเคยเสนอไปว่า ควรจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อปกป้องชีวิตนายทหารที่อยู่แนวหน้าของเรา โดยเฉพาะเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หยุดเอาชีวิต ทหารไปเสี่ยงกับกับระเบิด ที่กัมพูชามาลอบวางไว้ แต่ควรใช้อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาช่วยตรวจจุดระเบิดต่างๆ แทน อย่างเช่นหุ่นยนต์ตรวจหาและกอบกู้วัตถุระเบิด ที่จะเคลื่อนที่นำหน้าหน่วยลาดตระเวนกองกำลังทหาร ตนจึงขอฝากตรงนี้ไว้ด้วย