
9 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา และการดำเนินการตามแผนปฏิบัติพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า
เดิมทีตามกำหนดการ จะลงพื้นที่ที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่เนื่องจากประชาชนบางส่วนได้ทยอยกลับเข้าพื้นที่ของตนเองแล้ว แต่ที่จังหวัดสุรินทร์ประชาชน ยังมีความกังวลต่อความปลอดภัย และสถานการณ์ ตนจึงตั้งใจเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์เพื่อชี้แจงกับประชาชน รวมถึงยังมีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องเปลี่ยนแปลงด้วย
ส่วนการลงพื้นที่ที่จังหวัดสุรินทร์ในวันนี้ หลังการลงพื้นที่เสร็จสิ้นแล้ว จะมีการประเมินให้ประชาชน ชาวจังหวัดสุรินทร์สามารถกลับเข้าที่พักของตนเองได้เลยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า โดยรวมได้มีการสรุปสภาพสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว และเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.68) ได้ให้อธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ลงไปในพื้นที่เพื่อตรวจสภาพ และมีความเป็นไปได้ที่จะให้ประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักของตนเองได้ในวันนี้ (9 ส.ค.68)
ตนจะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัด ที่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้วางแผนเตรียมการต่างๆ ให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ให้เตรียมการไว้บ้างแล้ว จึงคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.68) ประชาชนจะสามารถกลับเข้าที่พักของตนเองได้เกือบครบถ้วน ยกเว้นบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถอาศัยได้ รัฐบาลก็จะหาแนวทางในการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป
ส่วนการเยียวยาประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย รัฐบาลจะมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินเยียวยาตามระเบียบราชการหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบเพื่อเพิ่มเงินชดเชยเยียวยากรณีเจ้าหน้าที่ทหาร และพลเรือนเสียชีวิตแล้ว ด้วยการนำงบกลางของรัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหากวันนี้ (9 ส.ค.68) มีความชัดเจนแล้วก็อาจจะมีการเปิดเผยรายละเอียดได้
นายภูมิธรรม ยังชี้แจงย้ำถึงสาเหตุการแต่งตั้งให้ "บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" นางสาวไทย เป็นโฆษกจิตอาสาศูนย์ ศบ.ทก.ว่า เนื่องจาก บุ๋ม-ปนัดดา เป็น Influencer มีผู้ติดตามจำนวนมาก และยังมีความสนใจในบ้านเมือง ซึ่งในข้อมูลทางทหารนั้น ยอมรับว่า บุ๋ม-ปนัดดา อาจจะรับทราบไม่มากเท่าเจ้าหน้าที่ทหาร แต่ก็มีความตั้งใจ และผู้บัญชาการเหล่าทัพก็ได้แนะนำมา ดังนั้น หากเหล่าทัพสามารถสนับสนุนข้อมูลได้ก็น่าจะทำหน้าที่ได้ดี และโฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ก็เป็นสตรีด้วย ฝ่ายไทยจึงไม่อยากให้โฆษกฝ่ายชาย ไปตอบโต้ ซึ่งอาจจะทำให้เสียเปรียบได้ จึงเชื่อว่า บุ๋ม-ปนัดดา จะมีความเหมาะสม สมน้ำสมเนื้อ และสามารถให้เหล่าทัพสนับสนุนข้อมูลได้