svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการ จากผลกระทบภาษีสหรัฐฯ

รัฐบาลเตรียมพร้อมออกมาตรการใหญ่ ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบภาษีสหรัฐฯ 19% เบื้องต้นมีด้วยกัน 3 มาตรการหลัก

7 สิงหาคม 2568 นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะทีมไทยแลนด์ เปิดเผยกับทีมบรรณิการในเครือเนชั่น ถึงแนวทางการจัดทำมาตรการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ จากการประกาศเรียกเก็บอัตราภาษี 19% ของสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนองค์กรภาคเอกชน เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาหลายมาตรการ คาดว่า เร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป 

นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะทีมไทยแลนด์

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเบื้องต้น มีด้วยกัน 3 มาตรการหลัก ประกอบด้วย

1.มาตรการทางด้านภาษีเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ สามารถปรับตัวได้ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านภาษี 19% เช่น การลดหย่อยภาษี การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือการให้เครดิตภาษี เป็นต้น

2.มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงิน ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อปล่อยสินเชื่อต่อให้กับธนาคารพาณิชย์ ไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ

3.เงินอุดหนุนของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะใช้เงินจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ กรอบวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ดำเนินการผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ

รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการ จากผลกระทบภาษีสหรัฐฯ

นายพงศ์ศรัณย์ กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เตรียมออกมาครั้งนี้ รัฐบาลได้หารือกับทางผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดยดูเป็นรายกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มก็มีความต้องการแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น กลุ่มอัญมณี ในช่วงแรกผู้นำเข้าอาจจะรับภาระจากภาษีสัก 40% อีก 40% ขอให้รัฐช่วยแบ่งจ่าย ส่วนอีก 20% อาจส่งต่อให้ผู้บริโภค โดยอาจจะขอเวลาปรับตัว 1-2 ปีให้สามารถปรับตัวได้  โดยอาจขอเป็นมาตรการทางภาษี เช่น การขอลดหย่อนภาษี แทนการขอ Soft Loan และในช่วงระหว่างนี้รัฐก็หากลไกอื่น ๆ ในการเก็บคืนควบคู่กัน

อีกแนวทางหนึ่งนั่นคือ การใช้กลไกของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ ที่ผ่านมาได้รับการอนุมัติวงเงินลงไป 10,000 ล้านบาท ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถปรับเปลี่ยนภาคการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านภาษีครั้งนี้ ส่วนการใช้กลไกของ Soft Loan อาจจะอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องสต็อกสินค้าเอาไว้ และจำเป็นต้องมีสภาพคล่องในช่วงนั้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้

ส่วนแนวทางในการเจรจาข้อตกลงร่วมการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ (Joint Agreement) ซึ่งขณะนี้ทีมไทยแลนด์ จะต้องไปเจรจารายละเอียดในรายสินค้ากว่า 1 หมื่นรายการ ที่จะต้องเปิดตลาดกับสหรัฐฯ สินค้าเกษตรบางรายการ จะมีกลไกในการดูแลเกษตรกรในประเทศก่อน เช่น ข้าวโพด จะรับซื้อผลผลิตในประเทศทั้งหมดก่อนที่จะพิจารณานำเข้า พร้อมประกาศราคารับซื้อผลิตในราคานำตลาด เพื่อการันตีว่าผลผลิตที่มีในประเทศจะต้องได้รับการรับซื้อทั้งหมด