
30 กรกฎาคม 2568 ความขัดแย้งระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" บริเวณชายแดน ได้ลุกลาม ยกระดับไปสู่เหตุปะทะ ต่อสู้กันหนักหน่วงขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝั่งไทยมีประชาชน หรือพลเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก และทหารเสียสละชีพเพื่อชาติหลายชีวิต
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ท่ามกลางความขัดแย้ง เหตุปะทะยิงตอบโต้กันไปมาบริเวณหน้าด่าน
อีกด้านยังมี “สงครามข้อมูลข่าวสาร” ที่กัมพูชา ออกมาฟ้องชาวโลกว่าประเทศไทยเป็นผู้กระทำการก่อน ขณะฝ่ายไทยมีทหารทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสาร ทั้งรายงานสถานการณ์กัมพูชา เป็นฝ่ายยิงพลเรือนฝั่งไทยก่อน และมีการติดแฮชแท็ก(#)ต่างๆ
ระหว่างที่ผู้นำกัมพูชา โฆษกกลาโหมของกัมพูชา ต่างอัปเดตเหตุการณ์ให้โลกรู้ตรงข้ามกับไทย รวมถึงบรรดาคนดัง ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์ ตบเท้าให้ข้อมูลแก่โลกที่ต่างจากไทยสิ้นเชิง ประหนึ่ง Fake News แต่ไทย ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน คนดัง อินฟลูเอนเซอร์ ค่อนข้างนิ่งเงีบบ ไม่ได้ออกมาแอกชันใดๆ
ท่ามกลางความนิ่งเงียบ แต่ภาคธุรกิจได้รวมพลังครั้งสำคัญในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ประดับธงชาติทั้งรูปแบบดิจิทัลผ่านสื่อหรือบิลบอร์ดต่างๆ เพื่อให้กำลังใจด่านหน้า ผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน
ล่าสุด “แพลน บี” ยักษ์ใหญ่สื่อโฆษณานอกบ้านของไทย ได้แสดงพลังครั้งสำคัญด้วยการยึดพื้นที่ป้ายโฆษณา หรือบิลบอร์ดบน 3 ตึก ณ ใจกลางมหานครของโลกอย่าง “ไทม์สแควร์” นิวยอร์ก
เพื่อขอร่วมสดุดีความกล้าหาญของทหารไทยผู้เสียสละชีวิต ปกป้องผืนแผ่นดินไทยจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างองอาจ
และขอส่งพลังใจให้กับกองทัพไทย และครอบครัวของวีรบุรุษทุกท่าน ความเสียสละของท่านจะคงอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดไป
นอกจากนี้ ยังติดแฮชแท็กบอกความจริงให้ก้องโลก โลกต้องรับรู้ #TruthFromThailand #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งพลังของภาคธุรกิจ เอกชน ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับประเทศไทย
ภาพและข้อมูลจาก Plan B Media