
28 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.35น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประมาณ 30 นาที ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้โทรมาแสดงความชื่นชมยินดีว่าเป็นความกล้าหาญของประเทศไทยในการเจรจาหยุดยิงไทย-กัมพูชา ที่เปิดใจทำให้เป็นตัวอย่างในการรักษาสันติภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศ และชื่นชมสิ่งที่เราทำว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศในการร่วมมือครั้งนี้
โดยตนยืนยันความร่วมมือความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ร่วมกันในการแก้ปัญหา และชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีบทบาทร่วมกับ 2 ประเทศ ในการทำให้เกิดความร่วมมือ และทำให้เกิดการแก้ปัญหาที่มุ่งเน้นสันติสุข และช่วยผลักดันเรื่องนี้
“ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่า เรื่องนี้จะทำให้ประชาคมโลกชื่นชมประเทศไทย ที่หยุดการกระทำรุนแรง และทำให้ประชาชนของไทยไม่เกิดความสูญเสียมากกว่านี้ รวมถึงการดำเนินกิจการต่างๆเป็นประโยชน์ และหลังจากนี้จะเริ่มพูดคุยเจรจาทางภาษี สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับประเทศไทย ซึ่งทางสหรัฐฯจะทำให้ดีที่สุด และดูแลเรื่องนี้ให้มากเท่าที่ทำได้ ขณะที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็ชื่นชมประเทศไทยในการแก้ปัญหาเรื่องนี้”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าอยากมาเห็นเมืองไทยในฐานะที่เราเป็นประเทศที่น่าชื่นชมและมีสิ่งที่ดีทางวัฒนธรรมหลายอย่าง เขาชื่นชมเรื่องนี้กับเรา ตนได้ขอบคุณสหรัฐฯที่มีส่วนช่วยให้ผลมีส่วนให้ประเทศเราพ้นวิกฤตในครั้งนี้ จึงเชิญชวนให้เดินทางมาเยี่ยมเมืองไทยและเขาก็อยากที่จะอยากมาประเทศไทย ทั้งนี้เท่าที่ฟังจากการพูดคุยน่าจะมีผลบวกเพราะสหรัฐฯอยากให้เรามีส่วนในการสร้างสันติภาพในอาเซียน และเอาเซียนทั้งหมดก็มีความรู้สึกดีต่อกัน สิ่งนี้เป็นประโยชน์ที่เขาชมว่าเรากล้าตัดสินใจ สิ่งนี้จะเป็นทางออกที่ดีต่อประชาชน และเชื่อว่าเมื่อสหรัฐฯเริ่มต้นจากความรู้สึกที่ดีในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ดีต่อกัน การเจรจาภาษีจะเป็นไปในทางที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อตกลงหยุดยิง หากยังมีการยิงกันอยู่ทำอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวสวนว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเที่ยงคืนต้องรอให้ถึงเที่ยงคืน เวลานี้ยังมีการต่อสู้ต่อเนื่อง แม้จะคุยกันที่กัมพูชาจบ แต่ยังมีการรบที่ติดพัน ซึ่งตนเชื่อว่าจะจบได้อย่างดี เพราะบรรยากาศที่ประชาคมโลกสนับสนุนเราน่าจะไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่าที่ผ่านมากัมพูชา มักไม่ทำตามข้อตกลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลานี้เป็นการพูดคุยของประชาคมโลก และประธานอาเซียนก็แสดงความชื่นชม หากกุมพูชายังเป็นอย่างที่เคยเป็น เชื่อว่าคิดโลกจะเข้าข้างเรา
เมื่อถามว่าผู้สังเกตการณ์จากจีน ว่าอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนชื่นชมเพราะเวลานี้เราอยู่ในสายตาของโลกและสิ่งที่เราได้จากโลก คือทุกคนชื่นชมยินดี เพราะมีความรู้สึกว่าประเทศเราใจกว้าง และส่งเสริมสันติภาพ เรามีความร่วมมือเราพูดและทำจริง สิ่งที่เราได้กลับมาน่าจะเพียงพอ
เมื่อถามว่า แม้จะตกลงหยุดยิงในเที่ยงคืนนี้ แต่กัมพูชายังอยู่ในพื้นที่ของไทย ที่ประสาทตาควาย เราต้องผลักดันออกก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้ผู้นำทางทหารทั้งสองฝ่าย ซึ่งรู้สถานการณ์จริงจะเป็นผู้พูดคุยกัน เราหยุดยิงเที่ยงคืนนี้ และพรุ่งนี้ 7 โมงเช้าจะให้แม่ทัพภาค 1 และ 2คุยกับกองทัพภาคที่ 4 และ 5 ของกัมพูชา ที่ขณะนี้ติดต่อกันอยู่แล้ว จึงอยากให้ดูให้ไกลและกว้างว่าเรื่องนี้จะเป็นการนับหนึ่ง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในเวลาเที่ยงคืน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงบรรยากาศที่ยังปะทะต่อเนื่องซึ่งความยาวชายแดนมี 800 กิโลเมตร ขอให้รอถึงพรุ่งนี้ก่อน วันนี้เราอยู่ในจุดยืนที่แสดงออกให้ประชาคมโลกได้เห็นแล้ว ถ้ากัมพูชายังไม่ทำในสิ่งที่ควรเป็นเขาจะเกิดความเสียหายต่อประชาคมโลกอย่างมาก
เมื่อถามว่าก่อนที่จะถึงเวลาเที่ยงคืน แต่กำลังพลเสียชีวิตจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจ ของประชาชนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางสิ่งที่เราไม่อยากเห็น ไม่อยากให้เกิดขึ้นเราก็เสียใจ แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าการสู้รบยังเป็นอย่างต่อเนื่อง ต้องรอดูผลทั้งหมดไม่ใช่แค่เฉพาะหน้า เพราะในภาวะสงคราม อะไรเกิดขึ้นจะทำให้ยากที่จะจบได้
เมื่อถามว่าพูดได้เต็มปากหรือไม่ว่า เป้าประสงค์ของกัมพูชา คือต้องการอธิปไตยไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ที่พูดคุยทั้งหมดถือว่าเป็นประโยชน์ และจะคลี่คลายได้ทางที่ดี
นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่ข้อความผ่าน X หลังไทยและกัมพูชาบรรลุข้อความเข้าใจร่วมกันในการหยุดยิง ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของเวลาท้องถิ่นไทยและกัมพูชาว่า ตนเพิ่งได้พูดคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ตนยินดีที่จะประกาศว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เข้ามามีบทบาท ทั้ง 2 ประเทศได้บรรลุสันติภาพ และข้อตกลงหยุดยิง จึงขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่าย
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังบอกด้วยว่า การยุติสงครามครั้งนี้ ได้ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก และตนได้สั่งการให้ทีมเจรจาการค้าของตนเริ่มเจรจาการค้าใหม่อีกครั้ง พร้อมประกาศอีกว่า ตนได้ยุติสงครามหลายพื้นที่ในเวลาเพียงหกเดือน ตนภูมิใจที่ได้เป็น ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ หรือ President of PEACE"