svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดข้อมูล "กัมพูชา" กู้เงินไทยหลายครั้ง รวมแล้วมากกว่าพันล้าน

เปิดข้อมูล รัฐบาลกัมพูชา ขอยืมเงินจากประเทศไทยหลายครั้ง เป็นจำนวนรวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาสร้างสาธารณูปโภค รวมทั้งซ่อมถนนทั่วประเทศ

25 กรกฎาคม 2568 ข้อมูลจาก "The Nation" สื่อภาษาอังกฤษของไทย ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาขอกู้เงินจากรัฐบาลไทยไปหลายครั้งแล้ว เป็นวงเงินรวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การก่อสร้างและซ่อมแซมถนนทั่วประเทศ 

ชาวกัมพูชาจำนวนมาก อาจไม่เคยรู้ก็ได้ว่า ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากเพื่อนบ้านในจำนวนมหาศาลขนาดนี้ โดยย้อนกลับไปในปี 2552 กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชาได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับประเทศไทยมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนในการซ่อมแซมทางหลวงหมายเลข 68 ซึ่งทอดยาวจากด่านชายแดนช่องจอมไปยังจังหวัดอุดรมีชัย เป็นระยะทางกว่า 113 กิโลเมตร

แต่ไม่นานหลังจากนั้น ความตึงเครียดรอบปราสาทพระวิหาร ได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความขัดแย้งชายแดน กัมพูชาจึงได้ยื่นคำร้องเพื่อขอถอนตัวจากสัญญาเงินกู้ โดยอ้างว่ามีเงินทุนเพียงพอแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในการก่อสร้างถนนหมายเลข 48 และ 67 ไปแล้วเช่นกัน

ในช่วงระหว่างปี 2562-2563 ประเทศไทยได้ให้เงินกู้เพิ่มเติมอีก ในจำนวนมากกว่า 983 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 (เสียมราฐ-อันลองเวง-จอมกระสานต์) โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ วัสดุและอุปกรณ์อย่างน้อย 50% ต้องมาจากประเทศไทย และต้องว่าจ้างผู้รับเหมา วิศวกร และที่ปรึกษาโครงการที่เป็นคนไทย

การชำระคืนเงินกู้ของกัมพูชาให้แก่ประเทศไทย:

  • ปี 2567 : เงินต้น 5.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ + ดอกเบี้ย 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ปี 2568 : เงินต้นเพิ่มเติม 1.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ + ดอกเบี้ย 330,000 ดอลลาร์สหรัฐ


นอกจากประเทศไทยแล้ว กัมพูชายังกู้เงินจากเพื่อนบ้านอื่นอีก เช่น เวียดนาม ที่มียอดชำระคืน 2.08 ล้านดอลลาร์ แต่เจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดยังคงเป็นจีน

ข้อมูลจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 ระบุว่า หนี้สาธารณะรวมของประเทศพุ่งสูงถึง 12.18 พันล้านดอลลาร์ โดย 99.96% เป็นหนี้ต่างประเทศ


รายนามเจ้าหนี้ต่างประเทศ ประจำปี 2568

 

  • จีน 3,981 ล้านดอลลาร์
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB)  2,581 ล้านดอลลาร์
  • ธนาคารโลก (World Bank)  1,720 ล้านดอลลาร์
  • ญี่ปุ่น 1,328 ล้านดอลลาร์
  • เกาหลีใต้ 689 ล้านดอลลาร์
  • ฝรั่งเศส 686 ล้านดอลลาร์
  • ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB)  53.9 ล้านดอลลาร์
  • ไทย 53.15 ล้านดอลลาร์ (ยอดสุทธิ คือ 1,724 ล้านบาท)
  • เยอรมนี 15 ล้านดอลลาร์
  • เวียดนาม 7.29 ล้านดอลลาร์
  • อินเดีย 6.38 ล้านดอลลาร์