
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมขอหารือพรรคฝ่ายค้าน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เกี่ยวกับการรับมือภาษีทรัมป์ของรัฐบาลว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกันในวิปฝ่ายค้าน หากจะมีการเปิดอภิปรายทั่วไป ก็สามารถทำได้ แต่พรรคประชาชนที่ทำการเปิดอภิปรายหลายครั้ง ก็พบว่า ควรจะต้องมีเรื่องและประเด็นค่อนข้างกว้าง เพื่อให้สามารถให้ความเห็นกับคณะรัฐมนตรีได้ในเรื่องอื่น ๆ ไม่เฉพาะประเด็นภาษีทรัมป์ เพราะการอภิปรายฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ก็สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวในปีสมัยประชุม แต่หากการหารือของฝ่ายค้าน พบว่า มีหลายเรื่องนอกเหนือเรื่องภาษีทรัมป์ ก็สามารถเปิดอภิปรายได้ แต่หากมีเพียงภาษีทรัมป์อย่างเดียว ก็อาจเสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาก็ได้
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึงการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาของรัฐบาลไทยว่า ขณะนี้ เวลาเหลือน้อยลงมาเรื่อย ๆ และข้อเสนอยังต้องแก้ไขกลับไป-กลับมา ระหว่างสหรัฐฯ ซึ่งเช้าวันนี้ (23 ก.ค.) หลายประเทศก็บรรลุการเจรจาเพิ่มเติมแล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้อัตราเดียวกับอินโดนีเซีย 19% และประเทศญี่ปุ่น 15% แต่สำหรับประเทศไทย ก็ยังต้องรอผลสรุปการเจรจาในวันนี้ (23 ก.ค.) ซึ่งเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด และบีบหัวใจว่า สุดท้ายประเทศไทยจะโดนอัตราภาษีเท่าไร และจะต้องเปิดตลาดให้กับสหรัฐฯ มากเพียงใด
นางสาวศิริกัญญา ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเจรจาไม่จำเป็นต้องเป็นการปรับลดอัตราภาษีเสมอไป เช่น ฟิลิปินส์ ที่โดนกำแพงภาษีครั้งแรก 17% แต่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการประกาศอัตราภาษี 20% ก่อนปิดดีลที่ 19% ซึ่งมากกว่าตอนที่มีการประกาศครั้งแรก ดังนั้น หลังจากหลายประเทศในอาเซียน ที่ถูกภาษี 19-20% ก็พอคาดเดาได้ว่า ประเทศในน่าจะถูกอัตรากำแพงภาษีในอัตราระหว่างนี้ เพราะอย่างอินโดนีเซีย หรือฟิลิปินส์ ได้เปิดเผยเงื่อนไขที่ไม่ได้เป็นภาษีกับสหรัฐฯ เช่น การยกเลิกการจัดเก็บภาษีดิจิทัลจากโซเชียลมีเดีย และการส่งออกแร่สำคัญ รวมถึงการยอมรับมาตรฐานรถยนต์สหรัฐฯ แต่ท้ายที่สุด ก็จะต้องรอฟังคำตอบจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะในกระบวนการเจรจาหลายประเทศ การเจรจาจะมีรายละเอียดแบบหนึ่ง แต่ตอนประกาศก็มีรายละเอียดอีกแบบหนึ่ง ดังนั้น จะต้องให้กำลังใจทีมเจรจา ที่ประเทศไทยจะยืนยันหลักการไม่นำสินค้าเกษตรไปแลกมากจนเกินไป หรือเปิดเสรี เพราะอาจทำให้เกษตรกร โดยเฉพาะผู้ที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้รับผลกระทบได้ ดังนั้น ก็จะต้องมีมาตรการรองรับไว้ หรือแจ้งเตือนเกษตรกรด้วย เพราะเอกชนผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศ ได้ชะลอการรับซื้อข้าวโพดอาหารสัตว์จากเกษตรกแล้ว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยมติพรรคภูมิใจไทย ที่เตรียมขอหารือพรรคฝ่ายค้าน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เกี่ยวกับการรับมือภาษีทรัมป์ของรัฐบาล เนื่องจาก พรรคภูมิใจไทย ต้องการเปิดมติดังกล่าว เพื่อต้องการให้รับทราบว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร เนื่องจากการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลขณะนี้เหมือนคนไทยถูกปิดหูปิดตาและไม่รู้อะไรเลย ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 8 วันจากนี้ จนกว่าจะถึงวันที่ 1 สิงหาคม ที่เกณฑ์ภาษีนำเข้าสหรัฐถึง 36% จะมีการบังคับใช้โดยจะส่งผลต่อการส่งออกของประเทศไทย และสิ่งที่อยากรู้คือทีมไทยแลนด์ที่ดำเนินการเจรจากับสหรัฐอเมริกา เขาเอาผลประโยชน์เงื่อนไขใดไปเจรจากับสหรัฐฯ บ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากังวลมากที่สุด โดยเฉพาะภาคการเกษตร กลัวจะลดเพดานภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรเหลือ 0% ทั้งหมด ซึ่งจะกระทบกับเกษตรกรไทยที่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมถึงมีความกังวลว่าอาจจะเสียอธิปไตยบางส่วนซึ่งสังคมไทยรับไม่ได้ ฉะนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงกับสังคมผ่านสภา เพื่อให้สังคมรับทราบและได้เตรียมตัวรับมือ โดยการหารือกับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อขอเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 พรรคภูมิใจไทยจะพูดคุยในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.)