คุณหญิงหน่อย ลุยจตุจักรฟังความเดือดร้อนผู้ค้า พบการทุจริต

19 กรกฎาคม 2568 ที่ตลาดนัดจตุจักร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ติดตามเรื่องความเดือดร้อน ของผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเราได้ลองไปที่ กทม. เรื่องนี้ค้างคาเป็นปีแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า และเราตรวจพบการทุจริต ที่ปัจจุบันปัญหาไม่ได้ถูกการแก้ไขและหนักขึ้น ปัญหาแรกเรื่องของตลาดเอกชน ที่ กทม.ไปเซ็นสัญญากับเอกชน เพื่อให้เอกชนเข้ามาทำตลาดกลางคืน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งตลาด อ.ต.ก. การขายเกินเวลาหรือนอกเวลาหรือตลาดกลางคืน จะต้องเป็นผู้ค้าในโครงการ กลับกลายเป็นว่า เป็นธุรกิจในเอกชนมาเช่าเหมาพื้นที่ ที่ควรจะเป็นของพวกเขาในตลาด และดำเนินการหาลูกค้ารายใหม่เข้ามา ทำให้มีปัญหากับอัตราค่าเช่า

โดยบริษัทเอกชนเซ็นสัญญากับ กทม. 700 แผงในราคา 3.5 ล้านบาท เก็บจากผู้ค้าเพิ่มอีก และผู้ขายใหม่เก็บวันละ400 ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีการรุกที่ค้าของผู้ค้าในเวลากลางคืน และยังรุกเข้ามาในเวลากลางวันด้วย คือมีการพยายามที่จะไล่ผู้ค้าเดิมในเวลากลางวัน และเงื่อนไขไม่เป็นไปตาม TOR  ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการยื่นไปยัง ป.ป.ช.แล้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลังจากที่ มติ ครม. ที่ให้ กทม.เข้ามาบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร โดยในมติกำหนดไว้ว่า เก็บค่าเช่าแพงไม่เกิน 1,800 /เดือน ซึ่งรวมทุกอย่างแล้ว แต่ตั้งแต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.เข้ามาทำงาน ก็มีการเพิ่มราคาจาก 1,800 บาท เป็น 2,800 บาท ก่อนจะลดลงมาเหลือ 2,300 บาท เพราะผู้ค้าไม่ยอม นอกจากนี้ยังเก็บค่าอื่นๆ อีก รวมๆ แล้วต่อเดือนจ่ายเกือบ 4,000 บาท ส่วนศูนย์อาหารจากที่เคยเก็บ 1,500 บาทเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 บาท ซึ่งเราได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม. และจะนำผู้ค้าไปพบผู้ว่าอีกครั้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ มีการต่อสัญญามีความลับลมคมใน มีการปรับหากจ่ายล่าช้า และยังห้องน้ำที่ปิดปรับปรุงไม่เปิดให้ใช้งาน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ 1,3,5 ซึ่งทำให้ผู้ค้าและนักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน ไม่มีกำหนดระยะเวลาในการปรับปรุง

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้รายงานว่า ผู้ค้าถูกข่มขู่ หลังจากมีการร้องเรียน บอกว่าเป็นปรปักษ์ต่อ กทม.หากมีผู้ค้าเข้ามาร้องเรียนกับตนอีก ตนจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด และจะไปหาผู้ว่าฯ เพื่อเอาข้อมูลให้ดู และปัดกวาดสิ่งไม่ดีออกจากตลาดนัด ฟื้นภาพที่ดีขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น ผู้ค้าได้รับความเป็นธรรมขายดีขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น