
2 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. ห้องพิจารณา 902 ภายหลังศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม112 ความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558 ที่ นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
ต่อมาเวลา 09.26 น.นายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญา เข้ามาฟังการสืบพยานวันที่สอง ด้วยรถเบนซ์ ส่วนตัว ทะเบียน ทษ 267
ก่อนเดินทางเข้าประตูด้านข้างอาคารศาลอาญาหลบเลี่ยงสื่อมวลชนทีมารอทำข่าวที่ด้านหน้าบันไดศาลอาญา
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์นัดที่ 2 โดยเป็นการสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 4 ปาก แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง และในส่วนของพยานจำเลยจะเริ่มในสัปดาห์ถัดไป
เมื่อถามว่าเมื่อวานหลังจากการสืบพยานโจทก์นัดแรกเสร็ตได้มีการพูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่
นายวิญญัติ กล่าวว่า ได้มีการคุยกันในฐานะทนายความกับลูกความ และประเมินการสืบพยานของเมื่อวาน แต่ยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองกับนายทักษิณอย่างแน่นอน
ยืนยันว่า นายทักษิณเดินทางมาฟังการสืบพยานจนกว่าจะจบสิ้นกระบวนการพิจารณาอย่างแน่นอน
ต่อมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเช่นเดิม โดยพูดคุยกับสื่อสื่อสั้นๆ พร้อมทั้งยืนยันว่า
เมื่อวานนายทักษิณไม่มีความเครียดใดๆ กับคดีนี้และกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และลูกสาวของนายทักษิณถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วนตัวของตนมองว่า กรณี ของน.ส.แพทองธารนั้น เจ้าตัวทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว และตนมองว่าไม่มีอะไรที่เสียหาย แต่เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาแบบนี้ก็ต้องน้อมรับ