svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กำแพงกั้น “แนวชายแดนไทยกัมพูชา” มากี่โมง หลังนายกสั่งมา 3 เดือน

กำแพงกั้น “แนวชายแดนไทยกัมพูชา” มากี่โมง? เปิดรายละเอียด “นายกอิ๊งค์” สั่งศึกษา-สร้างกำแพง กั้นปัญหาที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านมาแล้ว 3 เดือน

26 มิถุนายน 2568 ภาพที่วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย- กัมพูชาอีกครั้ง โดยปักหมุดที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดน ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ     

สำหรับพื้นที่แห่งนี้ เป็นอีกจุดยุทธศาสตร์การค้าขายชายแดนและที่สำคัญ เป็นจุดเข้าออกที่ถูกจับตาในเรื่องการเข้าไป เล่นพนัน  มีการฟอกเงิน แหล่งขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อันอื้อฉาว ที่เคยตกเป็นข่าวดังตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว จนถึงขั้นรัฐบาลแพทองธาร ต้องแสดงความขึงขังปราบปรามให้หมดสิ้น    

แม้แต่ตอนนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีการใช้อาคารเก่าในกัมพูชาเป็นฐาน

นายกฯ แพทองธาร เคยมาลงพื้นที่ด้านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568  เพียงแต่ครั้งนั้น มีบริบทแตกต่างจากครั้งนี้  ที่เป็นการลงพื้นที่เกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทชายแดนไทย –กัมพูชา ที่ยังไม่มีข้อยุติ ทำให้ทั้งสองประเทศ ออกมาตรการเปิดปิดด่าน จนเพิ่มความตึงเครียดของสองประเทศขึ้นมาอีก
กำแพงกั้น “แนวชายแดนไทยกัมพูชา” มากี่โมง หลังนายกสั่งมา 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของนายกฯ แพทองธาร เมื่อเดือน ก.พ. ถ้าย้อนกลับไปดูมาตราการในการปกป้องแนวชายแดน  ผ่านมาถึงวันนี้ เกิดคำถามว่า มีความคืบหน้าแค่ไหน  เพราะหลังจากที่นายกฯ แพทองธาร ได้ลงพื้นที่เมื่อเดือน ก.พ. บรรดา รมต.ที่ลงพื้นที่ไปด้วย โดยเฉพาะ นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ถึงขนาดแสดงความแข็งขัน เสนอไอเดีย จะมีการสร้าง "กำแพงกั้นตามแนวชายแดน" โดยมีความจริงจังถึงขนาดนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนมีนาคม 2568

หลังจากนั้น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังได้ออกหนังสือเวียน ไปยัง รมต. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามงานการลงพื้นที่ครั้งนั้นอย่างแข็งขันจริงจัง 
น.ส.แพทองธาร ลงพื้นทีอรัญประเทศเมื่อเดือน ก.พ.68

 

หนังสือ สลค.ฉบับดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 พื่อติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การพนันออนไลน์ การหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงาน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  และภาคเอกชนในการดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ การตัดสายสื่อสารข้ามแดน ตลอดจนการปรับลดระดับความสูงและกำลังส่งของเสาสัญญาณโทรศัพท์ ส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว บรรเทาลงได้ในระดับหนึ่ง                                 

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวบรรลุผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

1. ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ ในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนไทย -กัมพูชา เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน และลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของประชาชนรวมทั้งการลักลอบนำเข้า - ออกสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้ให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดน ในพื้นพื้นที่ที่มีความชัดเจนว่าเป็นจุดเสี่ยง เป็นจุดล่อแหลมเป็นช่องทางธรรมชาติ และต้องไม่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นลำดับแรก โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงกลาโหมประสานงานในการดำเนินการ ในเรื่องนี้กับฝ่ายกัมพูชาด้วย 
ภาพประกอบตัวอย่างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา สร้างโดย AI

น่าเสียดายว่า การลงพื้นที่ของ นายกฯ แพทองธาร ในพื้นที่เดิม คือ "อรัญประเทศ" จังหวัดเดิม คือ "สระแก้ว" เพียงช่วงเวลาห่างกันเพียงแค่ 3 เดือน ความคืบหน้า การสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดน กลับเงียบหาย

ท่ามกลางคำถามยังมีแนวความคิดสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนอยู่อีกหรือไม่ หากมีแนวคิดนี้อยู่ จะสร้างกี่โมง จะเห็นผลในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ หรือว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ยังไม่สุกงอมพอที่จะหยิบเรื่องนี้ ขึ้นมาพูดอย่างจริงจัง ให้เป็นรูปธรรม     

                                                                       
กำแพงกั้น “แนวชายแดนไทยกัมพูชา” มากี่โมง หลังนายกสั่งมา 3 เดือน