
25 มิถุนายน 2568 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้สั่งการให้ สส.ร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เนื่องจาก ไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไปได้ เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตยในประเด็นคลิปเสียงสนทนา กับ “ฮุนเซน” เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ และขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ
“พล.อ.ประวิตร เห็นว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ สส.ทุกคนของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมร่วมลงชื่อยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล แม้ว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่เรียบร้อย”
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “ตามที่พรรคภูมิใจไทยจะรวมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หลังจากเปิดสมัยประชุมสภาครั้งที่ 3 วันที่ 3 ก.ค.นี้ พล.อ. ประวิตร เห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย ที่จะยื่นญัตติ ไว้วางใจดังกล่าว เหลืออีก 10 กว่าเสียง พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เหลือเห็นด้วยแน่ และเชื่อมั่นว่าหากประชาชนสามารถลงชื่อไล่นายกฯ ได้ ปชช.ก็พร้อมลงชื่อด้วยเช่นกัน
สิ่งที่พี่น้องประชาชน คับข้องใจและเคลือบแคลงใจ สงสัยการทำงานของนายกฯ และรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง นับตั่งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทาง ทภ.2 เสนอแนะให้ปิดด่าน เพื่อตัดกำลังการส่งสินค้า โดยเฉพาะ น้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นยุทธปัจจัย ละการปิดด่าน ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต เพื่อตัดกำลังและเส้นทางนักพนันที่เป็นกลุ่มทุนฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับนิ่งเฉย ซึ่งสอดคล้องกับบทสนทนาที่ทาง “ฮุนเซน” นำมาเผยแพร่ เรื่องนี้ไม่ต้องแปลความอะไรมาก เพราะนายกฯ พูดภาษาไทย คนไทยทั้งประเทศได้ยิน เข้าใจชัดเจน