
19 มิถุนายน 2568 ภายหลังเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.2568) นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ออกชี้แจงยอมรับเรื่องคลิปเสียงหลุด โดยเป็นเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่าง สมเด็จฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา กับนายกฯแพทองธาร เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการอิสระ ให้ข้อมูลว่า ผู้นำระหว่างประเทศตามประเพณีสากลที่เป็นที่ยอมรับกันในประเทศใหญ่และเป็นสมาชิกสหประชาชาติในระเบียบโลกปัจจุบันมักจะมีวิธีการปฏิบัติคล้ายกัน คือ
เมื่อมีการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของสองประเทศหรือหลายประเทศ ปกติจะไม่มีการบันทึกเสียง แต่จะใช้การจดบันทึกโดยเจ้าหน้าที่ (note-taking) หรือเครื่องมือช่วยการบันทึก และนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะออกเป็นร่างเป็นทางการ (rough transcript) เพื่อเก็บบันทึกไว้ หรือบางส่วนแบ่งปันกับสื่อมวลชน
หากมีการแอบบันทึกโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะไม่เปิดเผยอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะนำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศและงดการสนทนาในอนาคต
อีกทั้งทำให้ฝ่ายที่นำมาเปิดเผยนั้นเสียความศรัทธาจากสมาชิกอื่นในประชาคมโลก
แต่หากถูกลักลอบหรือเกิดอุบัติเหตุการบันทึกเสียงที่ละเมิดมารยาทนั้นนำไปสู่การเผยแพร่ในเวทีสาธารณะ ก็จะเป็นความเสียหาย และขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่ายจะต้องหาทางแก้ไขหรือรับผิดชอบ
กรณีระหว่างกัมพูชากับไทยครั้งนี้ คู่สนทนาเป็นบุคคลที่เป็นตัวจริงหรือเป็นผู้นำประเทศจริงในทางปฏิบัติ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้นำประเทศโดยตำแหน่ง แต่มีบิดาเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
และการใช้สรรพนามเรียกตนเองหรืออีกบุคคลหนึ่งคล้ายเป็นสมาชิกในครอบครัว แสดงถึงความแตกต่างของอายุ และความนับถือเป็นการส่วนตัวนั้น ก็เป็นการยืนยันเจตนาว่าเป็นเรื่องของ "การร้องขอเป็นการส่วนตัว"
ซึ่งนำมาสู่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ในปัจจุบันว่าเหมาะสมหรือไม่ หรืออาจผิดกฎหมายจริยธรรม เรื่องการบกพร่องทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของชาติ