กต.ติง "เขมร" ยื่นศาลโลกไม่ใช่หนทางรักษา "ความสัมพันธ์ฉันมิตร"

กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เพื่อย้ำท่าทีของไทยต่อการยื่นหนังสือ โดยกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)  หรือ ศาลโลก เกี่ยวกับพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย โดยย้ำว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก แต่ปี 2503 ซึ่งเป็นท่าทีเดียวกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติอีก 118 ประเทศ
 
ประเทศไทย ยืนยันความยึดมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ ตามกฎบัตรสหประชาชาติ และหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการที่ไทยตัดสินใจไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลก สะท้อนท่าทีของไทยที่ได้พิจารณาแล้วว่า การใช้แนวทางใด ๆ เพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างระหว่างรัฐ จะต้องคำนึงถึงบริบทเฉพาะของเรื่องนั้น ๆ ลักษณะของสถานการณ์ และนัยต่ออธิปไตยของประเทศ

ประเทศไทยมีความเห็นว่า การนำเรื่องไปสู่ฝ่ายที่สาม อาจมิใช่หนทางที่ดีที่สุดที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐไว้ได้เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นละเอียดอ่อน ที่มีมิติทางประวัติศาสตร์ ดินแดน และการเมืองที่ซับซ้อน ดังนั้น ไทยจึงสนับสนุนแนวทางแก้ไขความเห็นที่แตกต่างระหว่างรัฐที่มีความยืดหยุ่น เป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้แต่ละรัฐ สามารถหารือกันอย่างสร้างสรรค์ โดยเป็นไปตามสภาวการณ์ในเรื่องนั้น ๆ และผลประโยชน์ร่วมกัน

กระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ดังที่ได้ระบุไว้ในหลาย ๆ โอกาส ประเทศไทยขอยืนยันท่าทีที่ว่า ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับเขตแดนในปัจจุบัน ควรที่จะได้รับการแก้ไขตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ระหว่างสองฝ่าย ซึ่งรวมไปถึงคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC, คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ตลอดจนเวทีทวิภาคีอื่น ๆ และยังเป็นที่น่าเสียใจว่า แม้ไทยและกัมพูชามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด ทั้งในระดับผู้นำ และระดับประชาชน ประเทศไทยและกัมพูชา ก็ยังมิได้มีการหารืออย่างรอบด้านในการประชุมทวิภาคีที่เหมาะสม เกี่ยวกับความเห็นที่แตกต่างในเรื่องพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง