
4 มิถุนายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ และ นางสาวนารากร ติยายน ในฐานะภาคประชาชน นำรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อ 30,000 รายชื่อ ยื่นขอให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ พิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนา ศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ ยื่น ป.ปช. ตรวจสอบการทุจริตกรณีอาคาร สตง.ถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินทางราชการเสียหายฯ
โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการฯ เข้ารับยื่นหนังสือ พร้อมกล่าวว่า นอกเหนือจากแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ยังพบว่ามีการไหวที่ศีลธรรม จรรยา และความรับผิดชอบ ของหน่วยราชการ หากปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่แก้ไขประเทศจะอยู่ไม่ได้ โดยกรรมาธิการจะพยายามหาเหตุให้ได้ว่าเหตุเกิดจากทางเทคนิคหรือกฎระเบียบหรือจรรยาบรรณ หรือวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ถือเป็นโจทย์ยากในการแก้ไขในสิ่งที่หมักหมม สกปรก ไม่มีความรับผิดชอบ ที่ถูกสั่งสมมายาวนาน โดยกรรมาธิการสัญญากับประชาชนว่ายากแค่ไหนจะทำให้ได้ แต่ยอมรับว่ามีสิ่งที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยจะเลือกสิ่งที่ทำได้ โชคดีที่ที่โดยกรรมาธิการจากทุกพรรคการเมืองคิดและตั้งใจเหมือนกัน หลังจากนี้จะขอมติจากคณะกรรมาธิการเพื่อส่งเรื่องไปยัง ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะผู้บังคับบัญชา ผอ.สตง. ให้เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ
“ความจริงอายุผมใช้คำว่าเตือนได้ แต่ขอแนะนำว่า เมื่อได้รับหนังสือจากคณะกรรมาธิการแล้ว กรุณาสั่ง มิฉะนั้นคนเขาจะไปนินทาว่าท่านปกป้อง”นายปลอดประสพ กล่าว
ด้านนางสาวนารากร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ ตึก สตง.ถล่ม พบว่าความเห็นจากทุกภาคส่วน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่า สาเหตุของตึกถล่มนั้นเกิดจากการทุจริตคอรัปชัน เพราะการที่จะทำให้ตึก สตง.ถล่มเช่นนั้นพบว่า ทำได้ไม่ง่าย โดยที่ผ่านมาตนและภาคประชาชนได้มีการร้องทุกข์และกล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนที่ สน.บางซื่อ เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ในนามของภาคประชาชน จึงเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ อีกครั้งเพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบการทำงานของ สตง.
ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อขอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญช่วยตรวจสอบ การทำงานของ สตง. ที่ทำให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินของราชการ และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ กว่า 100 ชีวิต แล้วที่ผ่านมาได้มีการแจ้งดำเนินข้อหาผู้กระทำความผิด แล้วแต่ยังไม่เห็นความรับผิดชอบ จากทางผู้ใหญ่ของ สตง. ว่าจะมีการรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร มีเพียงรอให้คณะกรรมการใหญ่พิจารณา แม้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ สตง. ในฐานะผู้บริหารองค์กร ก็ควรตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าความเสียหายนั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่ของตน หรือมีการรู้เห็นเป็นใจกันหรือไม่
“ถ้าคุณไม่อาย ผมอาย ผู้บริหารต้องมีความรับผิดชอบ เงินทุกบาท ทุกสตางค์ เป็นของประชาชน ถ้าคุณไม่ทำ คุณจะโดนละเว้น และผมจะดำเนินคดี ตามทุกเรื่อง ไม่ว่าจะผู้บริหารใหม่ หรือเก่า ผมจะทำทุกอย่าง ผมคุยกับตำรวจแล้วว่ามีหลักฐานทุกอย่าง ถึงหมดทุกคน ถ้าไม่ทำการตรวจสอบ ผมจะสู้ ในฐานะภาคประชาชน” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว และว่า
จึงขอให้คณะกรรมาธิการ เร่งตรวจสอบดำเนินการว่าโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. มีการทุจริตคอรัปชั่น และมีผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมขอให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าได้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นเท่าใด และเหตุใดในการก่อสร้างอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ซึ่งเป็นของรัฐ จึงรีบเร่งในการออกแบบ จนทำให้ต้องว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาออกแบบ ว่าได้มีการปรึกษากรมโยธาธิการและผังเมืองหรือไม่ พร้อมขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างวัสดุเครื่องใช้ของสำนักงาน สตง. ที่แพงเกินจริง