svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สอบฮั้ว สว.ร้อนฉ่า! ทวี ฮึ่ม! หลังพบหนังสือลับ ผู้ว่าฯ ถึง ปลัด มท.

สอบฮั้ว สว.ร้อนฉ่า! “ทวี” ฮึ่ม! ปมร้อน ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ ทำหนังสือลับ ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณี จนท.ดีเอสไอ ลงพื้นที่สอบอดีตผู้สมัคร สว. ด้าน “อนุทิน” บอกรายงานตามปกติ

6 พฤษภาคม 2568 กรณี นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ทำหนังสือลับแจ้งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า พบกลุ่มบุคคล 3 คน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เดินทางไปหาอดีตผู้สมัคร สว. 2 ราย เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือก สว.

 

โดย กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และมีการถอดปลั๊กกล้องวงจรปิดเพื่อไม่ให้มีการบันทึกภาพ และมีการบังคับให้รับสารภาพว่าได้กระทำผิดกรณีฮั้วเลือก สว. โดยไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ บังคับอดีตผู้สมัครสว. 2 ราย ให้ยอมรับว่าฮั้ว สว.

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย

 

ล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ดังกล่าว ว่า โดยปกติผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต้องดูแลประชาชนอยู่แล้ว อะไรที่ผิดปกติท่านก็รายงานเข้ามามายังผู้บังคับบัญชา คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงถือเป็นเรื่องปกติ และการรายงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเรามีไลน์กลุ่มอยู่ วันๆ อ่านกันแทบไม่ไหว มีคดีนั้นคดีนี้หรือเหตุการณ์นั้นเหตุการณ์นี้ ก็มีรายงานเข้ามาตลอด เมื่อรายงานเข้ามาแล้ว ก็จะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

เมื่อถามว่าขณะนี้เพิ่งมีเพียงเคสเดียวคือ กรณีของจังหวัดอำนาจเจริญใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เพิ่งได้เห็นจากข่าวเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.68)

 

ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเอกสารที่ดีเอสไอ ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะไม่ได้เกิดจากการบังคับมา นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลย เพราะตนไม่ได้กำกับดูแลหน่วยงานนั้น ตอนอยู่กระทรวงมหาดไทย ทำแต่เรื่องบำบัดทุกข์บำรุงสุข

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

 

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่จังหวัดอำนาจเจริญ และมีพยานบุคคลกว่า 10 ปาก ซึ่งพยานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

ส่วนเรื่องหนังสือของผู้ว่าฯ นั้น กำลังตรวจสอบ เนื่องจากโดยหลักการสอบสวนคดีพิเศษ เรามีกฎหมายมาตรา 22 ถ้าเป็นคดีพิเศษผู้ว่าฯมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน หากมีการประสานงานไปต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะมีโทษที่เกี่ยวข้องจำคุก 1-10 ปี ซึ่งได้ให้อธิบดีดีเอสไอใช้กฎหมายและข้อบังคับ เพราะที่ จ.อำนาจเจริญมีพยานกว่า 300 ปาก แต่ไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด เนื่องจากได้หลักฐานที่เป็นพยานวัตถุ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ สามารถย้อนกลับไปดูในที่เกิดเหตุได้ รวมถึงร่องรอยทางโทรศัพท์

 

ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวน แต่ถ้ามีอุปสรรคก็ขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช้กฎหมายและข้อบังคับ ที่ออกในปี 2547 ดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด

 

เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ 3 คน ที่ลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ และถูกร้องเรียน เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่า เป็นพนักงานสอบสวนของดีเอสไอจริง และได้รับความร่วมมือดี

 

เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ว่าฯ ถึงได้แจ้งว่ามีการข่มขู่พยาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่เคยแจ้งมาที่ตน หากผู้ว่าฯ พบการข่มขู่ ขอให้รายงานมาที่ตน อีกทั้งพนักงานสอบสวนของดีเอสไอลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ตามคำเรียกร้องของพยาน ว่า ถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงอยากให้ดีเอสไอไปสอบปากคำ ขณะเดียวกันไม่มีเงินที่จะเดินทางมาที่ กทม.

 

ส่วนขั้นตอนคดีฮั้วเลือก สว. จะเสร็จแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวน ตนไม่สามารถแทรกแซงได้ แต่ไม่มีปัญหาและอุปสรรค

 

เมื่อถามว่า คดีนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เพราะเรื่องเป็นคดีพิเศษก็ว่ากันไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ข้อบังคับ และพยานหลักฐาน ไม่ได้ เช่นเดียวกันบุคคลจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายไม่ได้

 

เมื่อถามว่า ทางดีเอสไอเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 138 สว. และอีก 2 สว. สำรอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องไปถามอธิบดีดีเอสไอ ขณะนี้ก็ทำงานหนัก และให้คำนึงว่าเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ ขอให้ทุกขั้นตอนมีพยานค้ำยันทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเส้นทางการเงิน และการใช้โทรศัพท์ติดต่อ ประกอบกับหลักและเหตุผล

 

ส่วนจะมีโอกาสแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ หลังครบ 2 เดือนแล้ว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มีรายงานมาว่าจะเร่งรัดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ก็รอดูอยู่ ทั้งนี้ ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการสอบพยานมากนัก เพราะกลัวมีข้อครหาว่าการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว

 

ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลนั้น  ก็ให้รอหมายเรียก ยังไม่แน่ชัดว่า จะทยอยออก หรือออกครั้งเดียว

 

ส่วนการสอบสวนจะเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองหรือไม่นั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า หากถึงใครก็ดำเนินการหมด ไม่มีละเว้นใคร

 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีชื่อรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เคยออกจากปากตน