21 เมษายน 2567 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาชาติ โดยย้ำว่า เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยมาพูดคุยกับพรรคประชาชาติในเรื่องดังกล่าว แต่พรรคประชาชาติ ได้มีการพูดคุยกัน เพราะพรรคฯ ได้โควตารัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่พรรคก็อยากได้ 2 คน เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้
ส่วนหากมีข้อเสนอใหม่เพิ่มตำแหน่งรัฐมนตรีอีก 1 ที่นั่ง เพื่อแลกกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น พันตำรวจเอกทวี ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น พร้อมยืนยันว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของตนเองเท่านั้น เพราะจะต้องเป็นไปตามโควตา และพรรคประชาชาติ ต้องรักษามารยาท เพราะมี สส.เพียง 9 คน และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่กว่าพรรคประชาชาติ มี สส. 10 คน
พันตำรวจเอกทวี ยังชี้แจงย้ำถึงกระแสข่าวการทวงคืนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชาติ กลับไปยังพรรคเพื่อไทยนั้น โดยยืนยันว่า กระแสข่าวดังกล่าว ไม่เคยได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เกิดจากการเลือกของ สส.จำนวน 500 คนในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะต้องเป็นกลางทางการเมือง
ดังนั้น ใครก็ตามที่เป็นประธาน จะต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเรื่องการเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร ตนเองก็ยังไม่เคยได้ยิน
"วันนอร์" ปัดตอบปมแลกเก้าอี้ ประธานสภาฯ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ หวังให้พรรคประชาชาติได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง เพื่อให้การทำงาน และสร้างผลงานให้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ต้องแลกกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่นั้น
นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำว่า เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นจบแล้ว และการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่ตนเองไม่เข้าไปยุ่ง แต่ตำแหน่งประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกับฝ่ายบริหาร
ส่วนหากมีข้อเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลพื้นที่ภาคใต้ โดยแลกกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหม เตรียมเสนอสภากลาโหม เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกำหนคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพล และให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งพักราชการได้หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าข้าราชการทหารใช้กำลังทหาร เพื่อยึดหรือควบคุมอำนาจรัฐบาล หรือก่อกบฏ
โดยระบุว่า ตนเองยังไม่เห็นรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าว จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ แต่คิดว่า การปรับปรุงพระราชบัญญัติกลาโหมเป็นเรื่องที่ดี เพราะกฎหมายปัจจุบัน ตราใช้บังคับตั้งแต่สมัยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่กระจำการรัฐประหารด้วย
ส่วนการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะสามารถป้องกันการรัฐประหารได้หรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เพราะไม่ทราบในรายละเอียด