svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก

09 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง เกิดจากดินฟ้าอากาศ-เรือเก่า ชี้ "ผู้การเรือ" ตัดสินใจผิดพลาด ขาดความรอบคอบ แต่ไม่ได้จงใจทำผิด ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ขณะเจ้าตัวแสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากราชการ

9 เมษายน 2567 กองทัพเรือ จัดแถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุ เมื่อ 18 ธ.ค. 2565 ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย

โดยมีผู้ร่วมแถลง พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือตรี อภิรมย์ เงินบำรุง คณะทำงานผู้เชี่ยววชาญด้านเทคนิคและคณะกรรมการสอบสวนฯ , พลเรือเอก ชัยณรงค์ บุญยรัตกลิน คณะกรรมการสอบ ข้อเท็จจริงความรับผิดชอบทางละเมิด , พลเรือโท สุรศักดิ์ สิงขรวัฒน์ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทัพเรือภาคที่ 1 และ นาวาโท พิชิตชัย เถื่อนนาดี อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย

โดย พลเรือเอก อะดุง กล่าวแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย ซึ่งกองทัพเรือได้ทุ่มเทยุทโธปกรณ์และกำลังพลทั้งหมดในการค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ตั้งแต่ช่วงแรกของเหตุการณ์ ไม่ละเลยในการค้นหาผู้สูญหายเมื่อมีโอกาส ตลอดจนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและสูญหายได้ รับการชดเชยทางการเงิน ได้รับยศที่สูงขึ้น รับบุตรและญาติเข้ารับราชการ 

เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก

นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 3 คณะ คือ 

  1. คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และสรุปบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
  2. คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทัพเรือภาคที่ 1 
  3. คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิด

โดยนำผลการสอบสวนเบื้องต้นมาใช้ อย่างละเอียด ตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม เมื่อเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของราชการอันเนื่องมาจากการกระทำอันละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ 2542

เรือหลวงสุโขทัย
ผบ.ทร. ย้ำว่า คณะกรรมการสอบสวนแต่ละคณะ มีความเป็นอิสระต่อกันในการพิจารณาและใช้วิจารณญาณ ทั้งนี้เพื่อให้การสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างรอบคอบโปร่งใส และเป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด เพื่อตรวจสอบให้ได้ครบในทุกมิติ กองทัพเรือมีความต้องการ ได้วัตถุพยานจริง และตั้งใจที่จะกู้เรือขึ้นมาทั้งลำ แต่เนื่องจากการกู้เรือในความลึก 50 เมตร และกองทัพเรือมีความต้องการให้นำเรือขึ้นมาทั้งลำโดยไม่มีความเสียหายใดๆ อีกทั้งให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของทีมกู้เรือ ไม่ให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นอีกแม้แต่คนเดียว จึงเกิดข้อจำกัดหลายเรื่อง และไม่มีบริษัทใดเข้าเกณฑ์ผ่าน
ทร.ไทย-สหรัฐฯ ปิดภารกิจ 19 วัน ปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย
และช่วงนั้น กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา มีหนังสือแจ้งเรื่องเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ที่ติดอยู่กับเรือ และเมื่อกองทัพเรือไทยเลือกบริษัทกู้เรือได้แล้ว ต้องผ่านขั้นตอนการเห็นชอบของสหรัฐฯ อีก 6 เดือน เมื่อพิจารณาแล้วกองทัพเรือได้หารือกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ซี่งเขายินดีจะช่วยเหลือในการตรวจสอบทุกประเด็น ค้นหาผู้เสียหายภายในเรือด้วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ดังนั้นกองทัพเรือจึงปรับมาเป็นการกู้เรือแบบจำกัดร่วมกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เพื่อเก็บภาพต่างๆใต้น้ำ ทั้งภายในและภายนอกตัวเรือ ตามจุดที่ได้จากการสอบเพื่อร่วมการยืนยันสาเหตุการจม
ป้ายรายนามผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ที่เก็บขึ้นมาได้
โดยมีการสำรวจห้องที่เกี่ยวกับเรือ ที่มีส่วนในการจม ส่วนโทรศัพท์ที่เก็บขึ้นมาได้ ไม่มีซิมการ์ดจึงไม่ปรากฏข้อมูล ๆและกล้องบันทึกวงจรปิดได้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานกรมสอบสวนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำตอบว่าเครื่องเล่นไม่สามารถอ่านได้เนื่องจากชำรุดมาก 

ทั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ได้มีหนังสือถึงกองทัพเรือ รอบที่ 2 และให้ความเห็นประกอบ หลังจากได้ดำลงไปตรวจสอบเรือหลวงสุโขทัยแล้วว่า เรืออยู่ในสถานะปลอดภัยแต่การยกเรือหรือย้ายจากจุดปัจจุบัน จะเสี่ยงสูงต่อความไม่สำเร็จ และเสี่ยงต่อกำลังพล รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายสูง 
เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก
และบัดนี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทุกคณะ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น และรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงให้กองทัพเรือทราบแล้ว จึงเป็นที่มาของการแถลงผลสอบต่างๆ  จากนั้นกองทัพเรือ ได้เปิดวีดิทัศน์รายงานผลสอบเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยล่ม สถานการณ์บนเรือ การติดต่อสื่อสาร และการช่วยเหลือหลังเรือจม

สรุปได้ว่า มีผลกระทบจากสภาพอากาศ คลื่นลมแปรปรวนรุนแรง มีคลื่นสูง 6 เมตร ในขณะที่เรือหลวงสุโขทัย สามารถเดินเรือได้ในความสูงของคลื่น 2.5 เมตร ทำให้การควบคุมเรือเป็นไปได้ลำบาก ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นคืนเดือนมืด ท้องฟ้ามีเมฆมากมีข้อจำกัดในการตรวจการให้ความช่วยเหลือ 
เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก
ด้าน พลเรือตรี อภิรมย์ กล่าวว่า กองทัพเรือดำน้ำสำรวจตัวเรือ 4 ครั้ง ซึ่งใน 3 ครั้งแรกเป็นการปฏิบัติของกองทัพเรือเอง ไม่สามารถเข้าไปในตัวเรือได้ เพราะมีความอันตราย ส่วนครั้งสุดท้ายร่วมกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา 

โดยสาเหตุของเรือจม เพราะน้ำเข้าเรือ แบ่งได้ 2 กรณีคือ 1.น้ำเข้าจากทางท้องเรือ ทำให้เรือจมลงไป เรียกว่าการสูญเสียกำลังลอยทำเรือจม 2.น้ำเข้าเรือด้านบนเหนือจุดศูนย์ถ่วงของเรือ ทำให้เรือเสียการทรงตัว เอียงแบบที่เรือหลวงสุโขทัยประสบในช่วงแรก ซึ่งการสำรวจ ก็มุ่งประเด็น ทำไมเรือถึงเอียงก่อนที่จะจมลง ก็พบความเสียหายที่เกิดขึ้นหลายแห่ง 

ตำแหน่งที่ 1 แผ่นกันคลื่นหน้าป้อมปืน 76 มม. ยุบตัว เพราะเจอคลื่นแรง จนดึงแผ่นเหล็กบนดาดฟ้าเปิด ทำให้เกิดเป็นช่องรูใหญ่ พื้นที่1 ตารางนิ้ว

ตำแหน่งที่ 2 ความเสียหายของป้อมปืน 76 มม. เนื่องจากโดนวัตถุของแข็งกระแทก ซึ่งไม่พบหลักฐานว่าคืออะไร เพราะวัตถุที่ว่าไม่ติดค้างที่ป้อมปืน แต่เชื่อว่าโดนวัตถุขนาดใหญ่กระแทกแน่นอน จนเป็นช่องที่ทำให้น้ำเข้าเรือได้

ตำแหน่งที่ 3 รูทะลุบริเวณกงที่ 35 กราบซ้าย จำนวน 2 แห่ง สูงจากน้ำ 5 ฟุต  โดนวัตถุภายนอกกระแทกเข้าไป รอยดังกล่าวไม่ได้เกิดที่ส่วนรอยเชื่อม จึงไม่ได้เกิดจากการซ่อมทำ ซึ่งรอยกระแทกดังกล่าว ไม่พบวัตถุที่ตกค้างว่ากระแทกจากอะไร ทำเป็นรอยกว้างยาว 1 ฟุต กว้าง 3-4 นิ้ว มีพื้นที้ 80 ตารางนิ้ว

ตำแหน่งที่ 4 ประตูห้องกระชับเชือกที่อยู่ในลักษณะเปิด มีโอกาสน้ำเข้าได้เมื่อประตูเปิด

ตำแหน่งที่ 5 ประตูท้ายห้อง gun bay ด้านป้อมปืน 76 มม. ที่ปิดไม่สนิท

ทั้งหมดนี้ สรุปความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เรือเสียการทรงตัวและอับปาง

เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก
ส่วนลำดับเวลาที่เรือวิ่งจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปหาดทรายรี จ.ชุมพร เครื่องขัดข้องนั้น ซึ่งกรณีที่เรือเจอคลื่นสูงก็จะพบได้อยู่บ้าง เนื่องจากน้ำมันที่อยู่ในถังสกปรก ไปเจอเศษฝุ่น อุดตันหัวฉีด ส่งผลให้หัวฉีดบางส่วนใช้การไม่ได้ ทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถรับภาระได้ อีกทั้งเรือหลวงสุโขทัยก็ใช้งานมากเกือบ 40 ปีแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงท้ายที่จะเข้าสู่การปลดประจำการ

ขณะที่ พลเรือโท สุระศักดิ์ ระบุว่า ได้มีการสอบปากคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ถึงความพร้อมของเรือหลวงสุโขทัย ภายหลังการซ่อมทำในปี 2564 ได้ทดลองเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมอู่ทหารเรือกำหนด และได้ออกปฏิบัติราชการตามปกติ การตรวจพบความชื้นบริเวณผนังห้อง Sonar ทางกาบซ้ายของตัวเรือ เนื่องจากใช้ราชการมา 1 ปี 9 เดือน การซ่อมบำรุงของกรมอู่ทหารเรือเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามมาตรฐาน และขณะออกเรือ เรือหลวงสุโขทัยมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน

พร้อมยืนยันว่าเสื้อชูชีพมีเพียงต่อจำนวนกำลังพลในเรือ 105 นาย เพราะมีเสื้อชูชีพทั้งหมด 120 ตัว และมีการประกาศให้กำลังพลสมทบมารับชูชีพแล้ว 3 ครั้ง แต่กำลังพลสมทบไม่ได้ไปรับ ขณะที่กำลังพลประจำเรือบางนายไม่มีชูชีพ เพราะไม่ได้สวมตั้งแต่แรก เพราะเมื่อไปผนึกน้ำแล้ว จึงไม่สามารถลงไปนำเสื้อชูชีพมาใช้ได้

ส่วนความพร้อมของแพชูชีพ เรือหลวงสุโขทัยมีแพชูชีพ 6 แพ อยู่ทางกาบซ้าย 3 แพ กาบขวา 3 แพ ขณะเกิดเหตุกำลังพลสามารถปลดแพกาบขวาได้ 2 แพ ส่วนอีก 4 แพ อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายเข้าถึงได้ยาก แต่เมื่อเรืออับปาง แพชูชีพทั้งหมดก็หลุดออกจากแท่นติดตั้ง
เรือหลวงสุโขทัย
ขณะที่ความพร้อมของกำลังพล ผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย พิจารณาว่า ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่ภารกิจในการรบเต็มรูปแบบ จึงจัดกำลังพลประจำเรือออกปฏิบัติราชการ 75 นาย จาก 100 นาย เพื่อจัดที่พักอาศัยบนเรือให้แก่กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อีก 30 นาย ที่โดยสารไปกับเรือ  เมื่อถึงภาวะที่ต้องปฏิบัติงานในสภาพอากาศ คลื่นลมที่รุนแรง ทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของกำลังพลลดลง ทั้งยังต้องป้องกันความเสียหายที่เกิดหลายสถานที่ในห้วงเวลาเดียวกัน จึงทำให้การป้องกันความเสียหายของเรือกระทำได้อย่างจำกัด

แต่เรือมีอุปกรณ์ป้องกันความเสียหายครบตามอัตราที่กำหนด และพร้อมใช้งาน เมื่อพบว่ามีน้ำเข้าเรือ จนมีการสั่งการแก้ปัญหาด้วยการผลึกน้ำทันที แต่ไม่สามารถออกไปตรวจสอบความเสียหายภายนอกตัวเรือได้ เพราะสภาวะคลื่นลมแรง จึงไม่ทราบความเสียหายภายนอกตัวเรือ

ทั้งนี้ ผลกระทบจากคลื่นลมในวันเกิดเหตุ สภาพอากาศแปรปรวนเปลี่ยนแปลงฉับพลันจากที่มีการพยากรณ์ไว้ ทำให้มีเรือขนาดใหญ่หลายลำอับปาง ในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน และมีน้ำเข้าเรือหลวงสุโขทัย จนเป็นเหตุให้เรือโคลงมาก เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือกำลังพล จึงมีการสูญเสียเกิดขึ้น

ส่วนการตัดสินใจนำเรือกับฐานทัพเรือสัตหีบ ของผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ทั้งที่ระยะทางไกล ใช้เวลาเดินทางมากกว่านำเรือเข้าเทียบท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น เพราะพิจารณาว่า คลื่นลมบริเวณหน้าท่าเรือมีความรุนแรง ซึ่งท่าเรือไม่สามารถเทียบท่า และไม่มีเรือลากจูงสนับสนุนการเทียบท่า การเข้าเทียบท่าอาจเป็นอันตรายต่อเรือ และในเวลานั้นผู้บังคับการเรือสุโขทัย ยังไม่ทราบข้อมูลการฉีกขาดของแผ่นเหล็กกันคลื่นบริเวณหน้าป้อมปืน จึงเห็นว่าหากนำเรือกลับจะทุเลาความรุนแรง ถือเป็นการตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งผู้บังคับการเรือฯ เห็นว่าเป็นหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
เปิดผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ชี้ "ผู้การเรือ" ขาดความรอบคอบ เจ้าตัวแสดงสปิริตขอลาออก
คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปว่า เรือหลวงสุโขทัยอับปางไม่ได้เกิดจากความจงใจของผู้บังคับการเรือฯ รวมถึงกำลังพลบนเรือ แต่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนอย่างฉับพลัน ทำให้เรือเกิดสภาวะผิดปกติ และน้ำเข้าเรือจากรูทะลุ เป็นเหตุทำให้เรือเอียงและอับปาง การตัดสินใจนำเรือกลับสัตหีบของผู้การเรือฯ  ซึ่งมีระยะทางไกลและใช้เวลาเดินทางมากกว่า เป็นดุลพินิจโดยขาดความรอบคอบ ทำให้เกิดความเสียหาย เชื่อว่าการอับปางของเรือหลวงสุโขทัย มีส่วนเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ 

ซึ่งการใช้ดุลพินิจโดยขาดความรอบคอบทำให้เกิดความเสียหายของผู้บังคับการเรือฯ สุโขทัย เป็นความผิดตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ 2476 โดยเห็นสมควรลงทัณฑ์ "กัก" เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งทัพเรือภาคที่ 1 ได้ประเมินให้กองทัพเรือได้ดำเนินการทางวินัย กับผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย แล้ว ส่งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิดดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องความผิดทางอาญา อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน พลเรือเอก ชัยณรงค์ กล่าวถึง การตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการจงใจ เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัยจากสภาพอากาศทั้งสิ้น และการตัดสินใจของผู้การเรือฯ ในการหันหัวเรือกับสัตหีบ สามารถดำเนินการได้ จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะต้องรับผิดทางละเมิด ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นาวาโท พิชิตชัย กล่าวว่า ในนามของผู้บังคับการเรือ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้ที่สูญเสีย 

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัย ผมขอยืนยันว่าไม่มีผู้ใดตั้งใจทำให้เกิดขึ้น ผมและกำลังพลทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดความสามารถ เพื่อกู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น และได้พยายามแก้ไขสถานการณ์ตามขั้นตอน ในเหตุวิกฤตที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าที่จะควบคุมได้ ในสถานการณ์วิกฤตและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น ในฐานะผู้บังคับการเรือจำเป็นต้องมีการตัดสินใจ ดังนั้นการนำเรือกลับสัตหีบจึงมาจากการใช้ดุลพินิจของผม จากการประเมินสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น เรือยังอยู่ในสภาวะปกติไม่เอียง สถานการณ์ในเรือสามารถควบคุมได้ จึงเชื่อว่าสามารถนำเรือกลับได้ 

แต่หลังจากที่ตัดสินใจนำเรือกลับ สภาพอากาศแปรปรวนอย่างฉับพลันเลวร้ายกว่าเดิม การตัดสินใจของผมอาจเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่รอบคอบ ผมในฐานะผู้บังคับการเรือ ขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ต่างๆ ขอยอมรับโทษตามกองทัพเรือภาคที่ 1 และผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะเห็นควร อีกทั้งหลังจากเรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมขอแสดงเจตจำนงค์ ลาออกจากกองทัพเรือที่เป็นถิ่นกำเนิดและบ้านเกิดการอบอุ่นของผม และเป็นการรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงเป็นการดำรงไว้ซึ่งเกียรติและตำแหน่งผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ที่ทหารเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ดำรงมา" นาวาโท พิชิตชัย กล่าว

นาวาโท พิชิตชัย ยังยืนยันว่า มีอิสระในการตัดสินใจในการเดินเรือ โดยดูจากสถานการณ์หน้างาน การหันหัวเรือกลับสัตหีบ ไม่ใช่การกดดันจากใครทั้งสิ้น เป็นการตัดสินใจของตนเพียงผู้เดียว พร้อมทั้งยืนยันว่าผลการสอบสวนทั้งหมดไม่ได้มีการปกปิด และไม่ผิดไปจากข้อเท็จจริง

จากนั้น ผบ.ทร. ได้กล่าวปิดท้ายการแถลงข่าว พร้อมทั้งชื่นชมอดีตผู้การเรือหลวงสุโขทัย ว่าเป็นลูกผู้ชาย ใครไม่เป็นทหารไม่รู้ เพราะตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร จนมาเป็นผู้การเรือ ต้องมีใจรัก ซึ่งการเป็นผู้การเรือเกรด A ของกองทัพเรือ เมื่อนำทัพทหารไปสูญเสีย ได้แสดงสปิริต ถ้าเขาไม่ลาออกก็ยังสามารถอยู่ได้ แต่ขอขอบคุณที่รักษากองทัพเรือไว้

2 สส.ก้าวไกล เตรียมนำเรื่องเข้า กมธ.ทหาร หลัง ทร. สรุปผลสอบ "ร.ล.สุโขทัย" ล่ม 
นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคก้าวไกล
ด้าน นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ และ นายชยพล สท้อนดี 2 สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะหรรมาธิการทหารฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่มาร่วมรับฟังการแถลงผลสอบเรือหลวงสุโขทัยอับปาง จากกองทัพเรือในวันนี้ เปิดเผยว่า ตนได้ตั้งคำถามว่าทำไมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองเรือยุทธการ ไม่ต้องรับผิดชอบเลย ทั้งในเรื่องการเตรียมความพร้อมเรือ การซ่อมทำเรือ แต่กลับจบที่ผู้การเรือคนเดียว 
นายชยพล สท้อนดี สส.พรรคก้าวไกล
ดังนั้น จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม กมธ.ทหารฯ เพื่อทำการตรวจสอบซ้ำ ผ่านการตั้งกรรมการอิสระขึ้นมา ซึ่งมีคนนอกเข้ามา ผ่านการขอชื่อจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะกรรมการที่กองทัพเรือตั้งขึ้นมา ควรจะมีจเรทหารเรือเป็นตัวหลัก พร้อมกับขอหลักฐานจากกองทัพเรือเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ยอมเปิดหลักฐานง่ายๆ แม้ว่า ผบ.ทร. จะบอกว่าสามารถให้ดูคำให้การของลูกเรือได้ก็ตาม

logoline