12 มกราคม 2567 หลังจาก พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมและ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีพิเศษ (DSI) ใน "คดีหมูเถื่อน" เปิดเผยว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาออกหมายจับ 4 หมาย รวม 4 คน ประกอบด้วย
1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ "เฮียเก้า" น้องชายต่างมารดานักการเมืองชื่อดัง และในฐานะนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย
2. นายหยาง ยา ซุง
3. นายกรินทร์ บุตรชายของนายหลี่
4. น.ส.นวพร เชาว์วัย ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่
ล่าสุดวันนี้(12 ม.ค.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายจับขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ ซึ่งรวมถึงนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ที่มีรายงานว่า พัวพันกับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน และเป็นน้องชายต่างมารดาของ นายเฉลิมชัย ว่า
ข่าวที่ว่า นายหลี่ เซิ่งเจียว เป็นพี่น้องต่างมารดากับตนเองนั้น เป็นเรื่องเท็จ เพราะบิดาของตน อยู่ในประเทศไทยมานาน 80 กว่าปีแล้ว โดยหลังจากที่บิดาของตนมาอยู่ไทย ก็ไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย จึงไม่มีทายาทอยู่ที่ประเทศจีน และตนเองไม่รู้จักบ้านของนายหลี่ ซึ่งกรณีที่เคยเจอกันในงานนั้น ก็เป็นเพราะ ตนได้รับเชิญให้ไปร่วมงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักธุรกิจ และข้าราชการมาร่วมงานจำนวนมาก
ส่วนกรณีที่ระบุว่า บุตรชายของนายหลี่ คือ นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับ นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย และนายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลานชายของตนนั้น ตนทราบเพียงว่า เป็นการมาขอใช้นามสกุล แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อ ในชีวิตของตนไม่เคยเอื้อผลประโยชน์ให้กับคนพวกนี้ และไม่เคยรับเงินสกปรก ทั้งต่อหน้า และลับหลัง เพราะในชีวิตของตน เกลียดการทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้น หากเป็นการกระทำความผิดของใคร บุคคลนั้นต้องรับโทษและเข้าสู่กระบวนยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อไปในชั้นศาล โดยไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการยกเว้น หรือหากผู้ทำผิดเป็นญาติหรือคนสนิทของตน ก็ต้องรับโทษ และขออย่านำประเด็นทางการเมืองมาเชื่อมโยง
ตนเองสามารถชี้แจงได้ทุกอย่าง และสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ การลักลอบนำเข้าเนื้อหมู ตนก็ได้สั่งการอธิบดีกรมปศุสัตว์ ห้ามปล่อยเนื้อหมูเหล่านั้นออกจากท่าเรือ หรือสถานที่ต่าง ๆ โดยต้องไม่มีการยินยอมให้นำเนื้อหมูดังกล่าวออกมาได้ ซึ่งคำสั่งนี้ของตน จึงเป็นที่มาของการอายัดเนื้อหมู 100 กว่าตู้ และทางกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการจับกุม อายัด และทำลายเนื้อหมูเถื่อนแล้ว
ส่วนจะมีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ก็จะต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ ในส่วนของตนตอนนี้ ให้ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการ แต่หากมีใคร มาทำให้ตนได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินตามกฎหมายต่อไป