
KEY
POINTS
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกิดผลการแข่งขันที่ช็อกวงการฟุตบอลโลก เมื่อ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี พลิกล็อกพ่ายให้กับ สโลวาเกีย ไปด้วยสกอร์ 0-2 ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้นอกบ้านครั้งแรกของเยอรมนีในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1954 เลยทีเดียว
เกมนี้ ดาวิด ฮันช์โก และ ดาวิด สเตรเลค เป็นผู้ทำประตูให้สโลวาเกีย โดยทั้งสองประตูมาจากการใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดในแนวรับของเยอรมนีเอง ขณะที่ทัพอินทรีเหล็กก็ไม่สามารถเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของสโลวาเกียได้เลยแม้แต่ประตูเดียว
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือของทีม ซึ่งเพิ่งจะทดลองใช้ผู้เล่นหน้าใหม่หลายราย โดยเขาได้ออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือดถึงทัศนคติของลูกทีมว่า "ขาดอารมณ์ร่วมและขาดความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ" และถึงกับตั้งคำถามว่าอาจจะต้องเลือกผู้เล่นที่มีความทุ่มเทมากกว่านี้แทนที่จะยึดติดกับคุณภาพเพียงอย่างเดียว
สำหรับเยอรมนีที่เพิ่งประเดิมนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทันที โดยนาเกิลส์มันน์ระบุว่าทีมจะต้องชนะรวดในอีก 5 เกมที่เหลือ เพื่อคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้โดยอัตโนมัติ มิฉะนั้นจะต้องไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงเกมกระชับมิตรที่วางแผนไว้แล้วด้วย
ในกลุ่มอื่น ๆ สเปน แชมป์ยุโรปทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยบุกไปเอาชนะ บัลแกเรีย ได้อย่างสบาย ๆ 3-0 จากประตูของ มิเกล โอยาร์ซาบัล, มาร์ก กูกูเรยา และ มิเกล เมริโน ทำให้พวกเขาเริ่มต้นเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกได้อย่างสวยงาม
ทางด้าน เบลเยียม ก็โชว์ฟอร์มโหดไม่แพ้กัน แม้จะใช้เวลาช่วงครึ่งแรกในการเจาะแนวรับของ ลิกเตนสไตน์ แต่สุดท้ายก็ถล่มไปถึง 6-0 โดย ยูริ ตีเลอมันส์ เหมาคนเดียว 2 ประตู และ เควิน เดอ บรอยน์ ทำอีก 1 ประตู
นอกจากนี้ในกลุ่มเดียวกัน เวลส์ ก็เก็บสามแต้มได้เช่นกันจากการเฉือนชนะ คาซัคสถาน 1-0 ทำให้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม J ชั่วคราว
ผลการแข่งขันที่น่าสนใจอีกคู่คือการพบกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์ ที่ต้องเจอกับ โปแลนด์ โดยเนเธอร์แลนด์เกือบจะเก็บชัยชนะนัดที่สามติดต่อกันได้ แต่ก็โดน แมตตี้ แคช ตีเสมอในช่วงท้ายเกม ทำให้จบลงด้วยผลเสมอ 1-1
ส่วน ตุรกี ก็สามารถเอาชนะ จอร์เจีย ไปได้อย่างหวุดหวิด 3-2 แม้จะเหลือผู้เล่น 10 คนจากการที่ บาริส อัลเปอร์ ยิลมาซ โดนใบแดงไล่ออกเพียง 4 นาทีหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงสนามก็ตาม