
KEY
POINTS
สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ โชว์ฟอร์มสุดแกร่งคว้าแชมป์ บริติช โอเพ่น 2025 ที่สนามรอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ (267) ทิ้งห่างแฮร์ริส อิงลิช อันดับสองถึง 4 สโตรก พร้อมคว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่สองของปีนี้ และเป็นเมเจอร์ลำดับที่สี่ในอาชีพ
เชฟเฟลอร์ เปิดฉากรอบสุดท้ายด้วยเบอร์ดี้ตั้งแต่หลุมแรก และเล่นอย่างมั่นคงตลอดทั้งวัน แม้จะพลาดดับเบิลโบกี้ที่หลุม 8 แต่ก็ไม่มีใครไล่ทัน โดยเฉพาะในช่วง 9 หลุมหลังที่เขาเก็บได้ 1 เบอร์ดี้ และไม่เสียโบกี้เพิ่ม
“มันคือหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของผม ทั้งด้านจิตใจและความอดทน” เชฟเฟลอร์กล่าว “การได้เดินขึ้นหลุม 18 พร้อมรู้ว่าคว้าแชมป์แน่นอนแล้ว มันคือความรู้สึกที่สุดยอดมาก”
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เชฟเฟลอร์กลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกในรอบกว่าร้อยปีที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 4 รายการแรกด้วยการชนะขาดอย่างน้อย 3 สโตรก และตอนนี้เขาขาดเพียงแค่แชมป์ยูเอส โอเพ่น เพื่อคว้าแกรนด์สแลม
“เขาคือมาตรฐานใหม่ที่ทุกคนต้องพยายามไล่ให้ทัน” รอรีย์ แม็คอิลรอย กล่าวถึงแชมป์รายนี้ “ในบริบทประวัติศาสตร์ มีแค่นักกอล์ฟไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยอยู่ในฟอร์มระดับนี้ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา”
แม็คอิลรอยจบที่อันดับร่วม 7 ร่วมกับแซนเดอร์ ชอฟเฟเล่ โดยทำได้ 69 ในรอบสุดท้าย ขณะที่คริส ก็อตเตอร์รัป ผู้ชนะรายการสก็อตติชโอเพ่นจบที่อันดับ 3 ร่วม
เชฟเฟลอร์คว้าแชมป์ 4 รายการในปีนี้ และคว้าชัย 11 ครั้งติดต่อกันเมื่อเป็นผู้นำหลัง 54 หลุม ซึ่งเป็นสถิติที่ยากจะเทียบเคียงได้
อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าประทับใจคือการฉลองแชมป์ของเชฟเฟลอร์ที่มีภรรยา เมเรดิธ และลูกชายวัย 15 เดือน เบนเน็ตต์ รอรับที่ขอบกรีน หลุม 18 โดยเจ้าตัวถึงกับดีใจจนตะโกนและโยนหมวกขึ้นฟ้า
“เธอคือคนแรกที่ผมอยากฉลองด้วยเสมอ” เชฟเฟลอร์พูดถึงภรรยา “เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม และผมไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้หากไม่มีเธอ”
แฮร์ริส อิงลิช ที่จบด้วยสกอร์ 66 คว้ารองแชมป์เมเจอร์เป็นครั้งที่สองในปีนี้ โดยทั้งสองครั้งก็เป็นรองเพียงเชฟเฟลอร์เท่านั้น
หลี่ ห่าวทง จากจีน, แม็ตต์ ฟิตซ์แพทริก และวินด์แฮม คลาร์ก จบที่อันดับ 4 ร่วม ขณะที่การคว้าท็อป 5 ของหลี่ทำให้เขาได้สิทธิ์ไปแข่งขันเดอะ มาสเตอร์สปีหน้า