ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกาตาร์ เปิดฉากขึ้นแล้ว โดยทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย มีคิวลงประเดิมสนามนัดแรกของกลุ่ม ซี ด้วยการพบกับ ทีมชาติอิรัก ในคืนนี้ เวลา 22.30 น.
โดยรายการนี้ มีโควต้า โอลิมปิก 2024 ให้ทีมจากทวีปเอเชียทั้งหมด 3.5 ทีม โดย 3 อันดับแรกจะได้ตั๋ว "ปารีส 2024" แบบอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 4 จะต้องไปแย่งโควต้ากับตัวแทนจากทวีปแอฟริกา
สำหรับทัพฟุตบอลทีมชาติไทย เคยเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 2 สมัย ครั้งแรกในปี 1956 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ส่วนครั้งที่ 2 คือโอลิมปิกเกมส์ ปี 1968 ที่เมืองเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก แม้ดูแล้วจะเป็นงานยากไม่น้อยสำหรับทีมชาติไทยในการแย่งตั๋วโอลิมปิก แต่สำหรับฟุตบอลทัวร์นาเมนต์แบบนี้ "อะไรก็เกิดขึ้นได้"
"โค้ชหระ" เตรียมทีมมาอย่างยาวนาน
ทีมชาติไทยชุด U23 นำทัพโดย "โค้ชหระ" อิสสระ ศรีทะโร กุนซือที่คลุกคลีกับนักเตะชุดนี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เคยร่วมงานเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนกับกุนซือ อากิระ นิชิโนะ โค้ชชาวญี่ปุ่น ในทีมชาติไทยชุดใหญ่ รวมถึงเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ระหว่างปี 2018-2019 แต่ผลงานจบไม่ตามเป้า พลาดพาทีมไปฟุตบอลเยาวชนโลกที่โปแลนด์ จึงได้ยุติบทบาทไป กระทั่งได้มีโอกาสกลับมารับงานคุมทีมชุด U23 อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน
ประวัติการทำงาน
โดยนับตั้งแต่คุมทีมชาติไทย U23 แบบเต็มตัว "โค้ชหระ" นำทีมลงแข่งขันมาแล้วทั้งสิ้น 32 นัด ทั้งในทัวร์นาเมนต์สำคัญและเกมอุ่นเครื่อง มีสถิติชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 11 เกม
"โค้ชหระ" เปิดใจถึงการแข่งขันครั้งนี้ไว้ว่า "สำหรับทีมชาติไทยของเราก็มีการเตรียมตัวมาตลอดสองปีที่ผ่านมา เราก็พร้อมสำหรับการแข่งขันรายการนี้ สำหรับทีมร่วมสายก็ถือว่าแข็งแกร่ง แต่ก็พอมีโอกาส หวังว่าทีมของเราจะทำได้ดี"
"เป้าหมายของเราก็คือมาเพื่อคว้าตั๋วไปโอลิมปิก แต่เราก็ต้องโฟกัสเกมต่อเกม"
"ผมคิดว่าทุกทีมก็มีโอกาสในการสู้กัน และผลลัพธ์ก็ออกได้ทั้งสามหน้า ก็อยู่ที่ความละเอียดในการเล่นของแต่ละทีม"
นอกจาก "โค้ชหระ" แล้ว ศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 ครั้งนี้ ยังได้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือช้างศึกชุดใหญ่มาช่วยงานด้วย เพื่อเป็นการปรับพื้นฐานให้ทีม U23 เป็นไปในแนวทางเดียวกับชุดใหญ่ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับอนาคต รวมถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังต้องการให้ อิชิอิ มาช่วยเช็กฟอร์มของคู่แข่งในแต่ละนัด แบ่งเบาภาระงานไปอีกแรง
ขาดตัวหลักเพียบแต่พร้อมสู้
เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ในปฏิทิน "ฟีฟ่าเดย์" ประกอบกับอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศ ทำให้สโมสรต้นสังกัดไม่สามารถปล่อยนักเตะตัวหลักมาเล่นให้ทีมชาติในรายการนี้ได้ เช่น โจนาธาร เข็มดี, ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์, ทรงชัย ทองฉ่ำ, บุคฆอรี เหล็มดี, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และ ยศกร บูรพา
ขณะเดียวกันก็ยังมีบางรายที่โชคร้ายมีปัญหาบาดเจ็บจนไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ เช่น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าจากทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้ โอเอช ลูเวิน ต้นสังกัด ส่งหนังสือยืนยันปล่อยตัวมาร่วมทีมแล้ว แต่สุดท้ายก็เจ็บจนต้องถอนตัวไป
อย่างไรก็ตามทีมงานยังเชื่อว่านักเตะคนอื่นๆในทีมชุดนี้ยังมีดีพอที่จะไล่ล่าตั๋วโอลิมปิกได้ เมื่อมีทั้ง ชนภัช บัวพันธ์, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, พงศกร ตรีสาตร์, สิทธา บุญหล้า, เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย รวมถึงตัวที่น่าจับตามองอย่าง เอราวัณ การ์นิเยร์ ดาวเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่เล่นให้ โอลิมปิก ลียง และถูกเรียกตัวมาติดทีมเป็นครั้งแรกในรายการนี้
"อิรัก" ฟอร์มแย่แต่ประมาทไม่ได้
สำหรับการเจอกับทีมชาติอิรักในคืนนี้ ถือว่าเป็นงานหินไม่น้อยสำหรับทีมชาติไทย เพราะพวกเขาเรียกตัวนักเตะที่ไปค้าแข้งในยุโรปกลับมารับใช้ชาติหลายราย ไม่ว่าจะเป็น โจเซฟ อัล-ไอมาน จากมัลโม่ ในสวีเดน, โรมัน โดลาชี่ จากชาลเก้ 04 ในเยอรมนี รวมไปถึงศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง อามิน อัล-ฮามาวี ที่เล่นให้ เฮลซิงบอร์กของสวีเดน
อย่างไรก็ตามผลงานช่วงหลังของทีมชาติอิรักถือว่าไม่ค่อยดีนัก โดยในศึก WAFF 2024 ทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องก่อนชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ พวกเขาลงแข่ง 3 นัดไม่ชนะทีมใดเลย เริ่มจากแพ้ ออสเตรเลีย 1-2, เสมอ ยูเออี 1-1 (อิรักชนะจุดโทษ 4-3) และปิดท้ายด้วยการแพ้ จอร์แดน 1-3 จบอันดับ 6 จากทั้งหมด 8 ทีม
เฮดทูเฮด "ช้างศึก" เป็นรอง
สำหรับสถิติการพบกันระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอิรัก (นับเฉพาะ U23) ใน 5 นัดหลังสุด ปรากฏว่า ทัพช้างศึก ไม่เคยเอาชนะได้เลย แถมยังเสียประตูทุกนัด โดยมีสถิติดังนี้
ร่วมส่งใจเชียร์ ทีมชาติไทย U23 ที่จะลงสนามเกมแรกพบกับ อิรัก ในคืนนี้ เวลา 22.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง ทรูวิชั่นส์ True Sport 2 ช่อง 667 >>>>> ดูบอลสด คลิกที่นี่ <<<<<