
23 กรกฎาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ "วิภา"และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 15 (201/2568)
เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (23 ก.ค. 68) พายุดีเปรสชัน "วิภา" ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว บริเวณแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว และเมื่อเวลา 10.00 น. ได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน คาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก
โดยมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนออกไปทางประเทศเมียนมาในช่วง 25 – 26 ก.ค. 68 จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยกำลังแรง
จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 23 - 24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
วันที่ 23 กรกฎาคม 2568
ภาคเหนือ:
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:
จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม
ภาคกลาง:
จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก:
จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568
ภาคเหนือ:
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:
จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง:
จังหวัดอุทัยธานี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออก:
จังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด
สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพหากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุดุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง