1 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 การบินไทย สายการบินประจำชาติของประเทศไทย เริ่มบินเที่ยวแรกโดยเครื่องบินใบพัด ดักลาส ดีซี-6 บี (Douglas DC-6B) พร้อมผู้โดยสารเต็มลำจำนวน 60 คน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ไปสู่ฮ่องกง ไทเป และโตเกียว
การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินกิจการในด้านการบินพาณิชย์ในประเทศและระหว่างประเทศ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2502 โดยการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด กับ สายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ซิสเต็ม (Scandinavian Airlines System : SAS) มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจการบินระหว่างประเทศ
การบินไทย มีฉายาว่า "เจ้าจำปี" จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2503 ภายหลัง เอส. เอ. เอส. ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ในปี 2531 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียเป็น 2,230 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ในปีต่อมาได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งของเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ดำเนินธุรกิจการบินพาณิชย์ในฐานะสายการบินประจำชาติไทย โดยมีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต
ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 การบินไทย ได้ให้บริการการบินไปยังท่าอากาศยานทั้งหมด 62 แห่งใน 32 ประเทศ และประเทศไทย แบ่งเป็นต่างประเทศ 59 สนามบิน ในประเทศไทย 4 สนามบิน ครอบคลุม 3 ทวีปทั่วโลก จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยฝูงบินกว่า 81 ลำ การบินไทยเป็นสายการบินลำดับต้นในเอเชีย ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพ–ลอนดอน (ท่าอากาศยานฮีทโธรว์)
นอกจากนี้ การบินไทยได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของโลก ประจำ ปี 2019 จากสกายแทรกซ์ ได้แก่ รางวัลอันดับ 1 สายการบินที่ให้บริการสปาเลาจน์ ยอดเยี่ยมของโลก (World's Best Airline Lounge Spa 2019) รางวัลอันดับ 1 สายการบินที่มีพนักงานให้บริการ ยอดเยี่ยมของเอเชีย (Best Airline Staff in Asia 2019) และรางวัลอื่นๆ จากสกายแทรกซ์รวม 8 รางวัล
อย่างไรก็ดี หลังขาดทุนสะสมมาหลายปี และสถานการณ์โควิด-19 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร้องขอให้ศาล ได้พิจารณาฟื้นฟูกิจการ โดยวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยดำเนินการฟื้นฟูกิจการตามที่บริษัทร้องขอ และได้เห็นสมควรให้บริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมถึงกรรมการบริษัทอีก 6 คน เป็นผู้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการตามที่การบินไทยเสนอมา
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ศาลล้มละลายกลางได้กำหนดนัดฟังคำสั่งศาลในการพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ซึ่งหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางได้รับคำคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้จำนวน 2 ฉบับ คำชี้แจงของผู้ทำแผน ตลอดจนความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในประเด็นต่าง ๆ แล้ว ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไขตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งให้กำหนดวันนัดประชุมเจ้าหนี้ ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันร้อยละ 78.59 เข้าร่วมประชุมและร่วมออกเสียงยอมรับการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว และในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทยฯ
วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งการพ้นจากตำแหน่งของผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ดังนี้ 1. นายไกรสร บารมีอวยชัย 2. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และจนถึงทุกวันนี้การบินไทย เริ่มแปลงสภาพจากเอกชน เป็นรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 คณะกรรมการเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทย ตามแนวทางที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารนำเสนอและให้การบินไทย กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ :