svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

17 เม.ย. 67 ครบรอบ 10 ปี "บิลลี่ พอละจี" แห่งใจแผ่นดิน ถูกบังคับสูญหาย

16 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

17 เมษายน 2567 ครบรอบ 10 ปี "บิลลี่ พอละจี" นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง "บางกลอย-ใจแผ่นดิน" ถูกบังคับสูญหาย "Nation STORY" จะพาย้อนไปดูคดีนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

รู้จัก "บิลลี่" หลานชาย "ปู่คออี้" แห่งใจแผ่นดิน 

นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ "บิลลี่" เป็นชายหนุ่มกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกะเหรี่ยง เกิดที่บ้านบางกลอยบน จังหวัดเพชรบุรี เป็นหลานชายของ "ปู่คออี้" ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธุ์บางกลอย บนแห่งผืนป่าแก่งกระจาน หรือที่รู้จักกันในนาม "ใจแผ่นดิน"

บิลลี่ทำหน้าที่เป็นล่าม ในการผลักดันการทำงาน เพื่อสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าตัวเรียนหนังสือและสื่อสารภาษาไทยได้ ก่อนหายตัวไป "บิลลี่" ทำงานเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ชีวิตคู่ แต่งงานกับนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ "มึนอ" มีบุตรด้วยกัน 5 คน "บิลลี่" ไม่มีที่ดินทำกิน ภายหลังจากที่ถูกบังคับให้อพยพออกมาจากพื้นที่ดั้งเดิม จึงต้องออกไปรับจ้างเฝ้าสวน ส่วนภรรยามีอาชีพรับจ้างรายวันทั่วไป

ขณะที่ "บิลลี่" ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดของตนเอง ถือเป็นพยานปากสำคัญ และเป็นผู้ประสานงานในคดีเหตุการณ์ปี 2554 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ของชาวปกาเกอะญอใจแผ่นดิน 30-40 ครัวเรือน ในข้อหาบุกรุกป่า พร้อมกดดันให้ย้ายลงมาอยู่หมู่บ้านข้างล่าง

พอละจี รักจงเจริญ หรือ "บิลลี่"

17 เมษายน 2557 "บิลลี่" หายตัวไปอย่างปริศนา

วันดังกล่าว "บิลลี่" ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก เดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อไปตัวอำเภอแก่งกระจาน พยานที่พบเห็นบิลลี่เป็นครั้งสุดท้าย ระบุว่า เขาเห็นบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุมตัวที่ด่านมะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี แต่ไม่รู้ว่าพาไปไหนต่อ

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ในขณะนั้น) ยอมรับว่า ควบคุมตัว "บิลลี่" เอาไว้จริง เพราะมีน้ำผึ้งป่าในครอบครอง แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว

18 เมษายน 2557 เวลา 06.00 น. คนในครอบครัวยืนยันว่า บิลลี่ยังไม่ได้กลับบ้านจนถึงเวลา 08.00 น. จากนั้นชาวบ้านได้ออกค้นหาจนถึงเวลา 20.00 น. ผู้ใหญ่บ้านบางกลอยเข้าแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน  

ด้าน "มึนอ" เชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ ได้ทำทุกวิถีทาง ทั้งร้องเรียนจังหวัด ยื่นคำร้องต่อศาลให้ไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 ว่าการควบคุมตัว "บิลลี่" ขัดกับหลักกฎหมาย และยื่นหนังสือต่อสถานทูตต่างประเทศ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า

พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ "มึนอ"

จุดเปลี่ยนคดี "บิลลี่" จากสถานะคดีคนหาย กลายเป็นฆาตกรรม

คดีการหายตัวของ "บิลลี่" เปลี่ยนสถานะจากคดีคนหาย กลายเป็นคดีฆาตกรรมอย่างเป็นทางการ เมื่อ 28 มิถุนายน 2561 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้รับคดีการหายตัวไปของ "บิลลี่" เป็น "คดีพิเศษ"

ต่อมาเดือนกันยายน 2562 ทางดีเอสไอ พบชิ้นส่วนกระโหลกมนุษย์ใกล้ถังน้ำมัน มีรอยไหม้และรอยแตกร้าว เมื่อนำตรวจสอบสารพันธุกรรม หรือ DNA พบว่าตรงกับมารดาของบิลลี่  ซึ่งอาจประเมินได้ว่า บิลลี่น่าจะเสียชีวิตแล้ว

ด้านอธิบดีดีเอสไอ (ในขณะนั้น) แถลงย้ำว่า นี่คือคดีฆาตกรรม แต่กระดูกที่พบยังไม่ใช่หลักฐานที่เพียงพอในการชี้ตัวคนร้ายได้ จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ไปสอบสวนเพิ่มเติม

ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษและอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าว จนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันเชื่อได้ว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จับกุม "บิลลี่" ไปนั้นได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในคดีร่วมกันฆาตรกรรมอำพรางโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน คดีฆาตกรรมนายบิลลี่ 

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" พร้อมพวก 4 ราย ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คดี "บิลลี่ พอละจี"

17 เม.ย. 67 ครบรอบ 10 ปี "บิลลี่ พอละจี" แห่งใจแผ่นดิน ถูกบังคับสูญหาย

ศาลยกฟ้อง "ชัยวัฒน์" คดีอุ้มฆ่าทำลายศพ เหตุยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าบิลลี่ เสียชีวิตแล้วหรือไม่ 

วันที่ 28 กันยายน 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ และข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณีการหายตัวไปของ "บิลลี่" โดยศาลสั่งจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฐานจับกุม "บิลลี่" พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำส่งตำรวจ

ส่วนคดีร่วมกันฆ่าบิลลี่ โดยไตร่ตรอง พยานหลักฐานยังไม่อาจเชื่อได้ว่า นายชัยวัฒน์และพวก ร่วมกันฆ่า "บิลลี่" ศาลยกฟ้องคดีฆ่าทำลายศพ ซึ่งภายหลังฟังคำพิพากษา นายชัยวัฒน์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี

น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ทนายความของภรรยาบิลลี่ ระบุ หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดีอย่างแน่นอน เนื่องจากศาลลงโทษเฉพาะความผิดมาตรา 157 กรณีจับกุมตัวนายบิลลี่ พร้อมน้ำผึ้งป่า และไม่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงทำให้คดีนี้ย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นว่า "บิลลี่" ยังคงเป็นบุคคลสูญหาย จึงจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการพิสูจน์การหายตัวไปของ "บิลลี่"

17 เม.ย. 67 ครบรอบ 10 ปี "บิลลี่ พอละจี" แห่งใจแผ่นดิน ถูกบังคับสูญหาย

ครอบครัว "บิลลี่" ฟ้องแพ่งกรมอุทยานฯ 26 ล้าน

วันที่ 4 เมษายน 2567 มารดาและลูกของ "บิลลี่" เดินทางมาที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เพื่อร่วมเป็นโจทก์ฟ้องคดี ต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นจำเลย กรณีเจ้าหน้าที่ภายในสังกัดของจำเลย กระทำละเมิดโดยการอุ้มฆ่า "บิลลี่" ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

โดยเรียกค่าสินไหมทดแทน อาทิ ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรม ค่าเสียหายต่อสิทธิ เสรีภาพและชีวิต ค่าเสียหายต่อจิตใจ ค่าขาดแรงงานในครัวเรือน และค่าขาดไร้อุปการะ รวมเป็นเงินต้นกว่า 26 ล้านบาท

ทั้งนี้ ศาลแพ่งรัชดา รับคำฟ้องเพื่อพิจารณา และนัดชี้สองสถาน เพื่อให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยกำหนดประเด็นข้อพิพาท ที่จะนำเข้าสืบในชั้นศาล ในวันที่ 10 มิถุนายน 2567

 

ขอบคุณข้อมูล : แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

logoline