ผู้ประกอบการ เห็นด้วยผ่อนปรนเปิดด่านส่งสินค้าไป "กัมพูชา"

12 กันยายน 2568 นายจตุพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา และคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยถึงมาตรการผ่อนปรนการส่งสินค้าในจังหวัดตราด และจันทบุรีไปประเทศกัมพูชาว่า เห็นด้วยมากที่สุด เพราะเราอยู่ในธุรกิจนี้ แม้จะเป็นการผ่อนผันแบบมีข้อจำกัด ตามมาตรการของคณะกรรมการ RBC อีกครั้งก็ตาม อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ประกอบการได้ผ่อนคลายความเดือดร้อนได้บ้าง เพราะหลังจากปิดด่านหาดเล็กมา 2 เดือน ทำให้ธุรกิจการค้าการส่งออก เป็นศูนย์ จากเดิมที่มีรายได้เข้าประเทศวันละเกือบ 100 ล้านบาท ในส่วนนี้ ประเทศชาติก็สูญเสียเรื่องภาษีจากกำไรซื้อขายต่างประเทศ ซึ่งด่านที่ จ.ตราดเองไม่ได้มีปัญหาเรื่องเขตแดน การทะเลาะกัน ไม่มีสงคราม หากเปิด 2 ด่านที่จันทบุรีและตราดก่อน ก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยๆ ค่อยๆปลดล็อกในพื้นที่ที่ไม่ได้มีประเด็นเรื่องชายแดนให้มีการค้าขาย ก็จะนำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการแทบหมดเนื้อหมดตัว ธุรกิจแทบชะงัก จึงอยากฝากถึงคณะกรรมการทั้ง RBC และ GBC ในการพิจารณา ทั้งความมั่นคงชายแดน ซึ่งต้องดูที่ความมั่นคงทางธุรกิจ เศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย จึงต้องรอความหวังจากการพิจารณามาตรการผ่อนปรนด่านชายแดน อย่างน้อยๆ ให้มีช่องให้ค้าขายได้บ้างก็เป็นสิ่งดี 

"เฉพาะจังหวัดตราด 1 ปีมีรายได้ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านทั้งนำเข้าและส่งออก เท่ากับวันนี้ ประมาณ 100 ล้าน ที่ปิดมา 60 กว่าวัน ก็หายไปประมาณ 5-6พันล้านบาทแล้ว" 

"จริงๆ เราก็อยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับมามีกิจกรรมค้าขาย เดินทางไปมาหาสู่กันได้ เพราะจริงๆ คนตราด และคนเกาะกง หลายคนเป็นพี่น้องกัน เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง เราไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยในระดับประชาชน เราอยากให้การเดินทางไปมาหาสู่ การท่องเที่ยวการไปเยี่ยมญฐาติา สามารถทำได้เหมือนเดิม"

ขณะที่ นายทศพล เครือลอย กรรมการผู้จัดการโรงงานน้ำปลาสามกระต่าย และคณะกรรมการหอการค้าตราด เปิดเผยถึงการผ่อนปรนส่งสินค้าในจังหวัดตราด และจันทบุรี ไปกัมพูชา ว่า เป็นเรื่องดีที่จะทำให้ผู้ประกอบการได้ผ่อนคลายปัญหาลงได้บ้าง แต่ในส่วนของตนมองว่า แม้จะให้ส่งสินค้าไปได้ แต่คงต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว เนื่องจากกัมพูชาหันไปใช้สินค้าจากเวียดนามแทน กว่าจะสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ากลับมาบริโภคสินค้าไทยก็คงต้องใช้เวลานาน อีกทั้งต้นทุนการผลิตน้ำปลาของตนสูงกว่าเวียดนาม และชาวกัมพูชาก็บริโภคสินค้าของเวียดนามมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ตนจึงต้องลดกำลังผลิต ปิดเครื่องจักร หันมาผลิตด้วยแรงคน เพื่อจำหน่ายตลาดในเมืองตราดและจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้น เพราะต้องสร้างรายได้เลี้ยงดูแรงงานและครอบครัว 

สำหรับการผ่อนปรนเปิดด่านชายแดน ผู้ประกอบการต่างรอให้คณะกรรมการ RBC เร่งพิจารณากำหนดมาตรการ และขั้นตอนต่างๆให้โดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว เนื่องจากตอนนี้ การค้าการส่งออกมีรายได้เป็นศูนย์ ทำให้เดือดร้อนไปตามกันทั้งรายเล็ก รายใหญ่ และประชาชนตามแนวชายแดนทุกคน