ผู้ก่อเหตุหนีไปได้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุล้อมจับสะบ้าย้อย
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุล้อมจับ อ.สะบ้าย้อย หลังมียิงปะทะ 2 ฝ่าย แต่ “ผู้ก่อเหตุ” หลบหนีไปได้ ส่วนรถหุ้มเกราะตกข้างทาง เจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย
11 กันยายน 2568 พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้การเข้าบังคับใช้กฎหมาย ของเจ้าหน้าที่กรณีชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 ที่ได้ตรวจพบสถานที่หลบซ่อนพักพิง เพื่อเตรียมการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เวลา 05.30 น.
ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 ได้ทำการลาดตระเวนในพื้นที่สวนยางพารา บ้านห้วยเต่า หมู่ที่ 7 ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้ตรวจพบสถานที่หลบซ่อนพักพิงเพื่อเตรียมการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จึงเข้าทำการตรวจสอบระหว่างนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุ 4 - 5 คน ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดกั้นและทำการยิงตอบโต้ จนเกิดการยิงต่อสู้กัน จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนี ขึ้นไปบนเนินเขาบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกลยุทธ์หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 จึงได้แจ้งให้ตำรวจในพื้นที่ทราบ
หลังจากนั้น ตำรวจจึงขอรับการสนับสนุนกำลัง จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบ และบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ร่วมกันเจรจาให้กลุ่มผู้ก่อเหตุวางอาวุธ ออกมามอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อสู้ตามหลักของกฎหมาย แต่กลับไม่เป็นผล
โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังมีการยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ จึงได้ดำเนินการกระชับวงล้อม เพื่อจำกัดเสรีการปฏิบัติ แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นป่าทึบ และกลุ่มผู้ก่อเหตุมีความชำนาญในพื้นที่ จึงสามารถหลบหนีจากการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ไปได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบ พบร่องรอยการพักพิง พร้อมเสบียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรงจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาและความระมัดระวังในการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อป้องกันการลอบก่อเหตุซ้ำ
เหตุการณ์ดังกล่าว พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ดำเนินการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายตามหลักฐานวัตถุพยานที่ตรวจพบ ด้วยความโปร่งใส เน้นการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด
สำหรับการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ที่เกิดขึ้น ระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่โดยรถหุ้มเกราะทางทหาร REVA ได้ประสบอุบัติเหตุตกข้างทาง เกิดจากความไม่ชำนาญเส้นทาง รวมทั้งภูมิประเทศเป็นเนินสูงสลับกับร่องไหล่ทางที่มีความสูงชัน ขณะนี้กำลังพลทุกนายได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล มีอาการปลอดภัย และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
