
10 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 10.30น. ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนกองทัพบกรับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนจำนวน 10 ชุด มูลค่า 3 ล้านบาท จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และงบประมาณสนับสนุน จำนวน 5 หมื่นบาท จากคณะนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 โดยมี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนในการส่งมอบ
นอกจากนี้ ยังมีภาครัฐและเอกชน กลุ่มศิลปินดารานักแสดง อาทิ มูลนิธิไทยพีบีเอส กลุ่มเพื่อนโจอี้ ครอบครัวนายชาดา ไทยเศรษฐ์ นำสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย ทิชชู่เปียก ยาสามัญประจำบ้าน แป้งโยคี สเปรย์กันยุง ผงซักฟอก กางเกง เชือก ตาข่ายพลาสติกกรองแสง ตาข่ายกันลม ตาข่ายกันโดรน อวนมุ้งฟ้า พร้อมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค
ขณะเดียวกัน พระครูพิสิฐปัญญวุธ วัดป่าธรรมาภิรมย์ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้นำเสื้อยันต์มหาอุต ที่ผ่านการปลุกเสกจากเกจิชื่อดังของภาคเหนือมามอบให้กับแม่ทัพภาคที่ 2 จำนวน 1,000 ตัว เพื่อนำไปมอบให้กับทหารหาญที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน พร้อมกันนี้หลวงพ่อได้นำฝ้ายที่ผ่านการปลุกเสกแล้วผูกข้อมือและปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดเกิดเหตุทหารไทย 3 นาย เหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 บริเวณรอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ขาขาด 1 นาย และบาดเจ็บที่ขาอีก 2 นาย
จากการตรวจสอบพบว่าทุ่นดังกล่าวเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ในช่วงที่ทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปหลังการเข้าตีสำเร็จ ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตัก ในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ
สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา จึงไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด ประชาชนที่พบเห็นควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ 100% แต่พื้นที่ตาควาย ยังต้องตรึงกำลังเพราะมีระเบิดจำนวนมากและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในประเด็นข้อพิพาทเรื่องทุ่นระเบิด กัมพูชาไม่ยอมรับเงื่อนไขให้เก็บกู้ในกรอบ JBC เพราะยังมีการวางทุ่นอยู่ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยระเบิด
ส่วนข่าวการยั่วยุโดยใช้หนังสติ๊กหรือสิ่งต่างๆ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงภาพข่าวในโซเชียล ขณะนี้ ทหารไทยยังคงควบคุมพื้นที่และปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงของรัฐบาล การกู้ระเบิดในพื้นที่ชาวบ้านเริ่มทยอยดำเนินการในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากไม่ทราบจำนวนหลุมจากการยิง จึงต้องอาศัยการเฝ้าระวังและแจ้งเจ้าหน้าที่ของประชาชน
“ขอบคุณทุกกำลังใจและสิ่งของจากประชาชน หน่วยงานต่างๆ รวมถึงสำนักนายกรัฐมนตรี และคุณทักษิณ ชินวัตร ที่มอบโดรนเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ยืนยันว่ากำลังพลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทหารและประชาชนในพื้นที่ชายแดน” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง