เมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 "ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณี นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กระทำความผิดเสียบบัตรแทนกันในสภาฯ จำนวน 11 หน้า
โดยคดีดังกล่าวกล่าวโดยสรุป องค์คณะเสียงข้างมาก เห็นว่า มูลเหตุที่ทําให้จําเลยกระทําความผิดครั้งนี้เกิดจากจําเลยต้องไปเป็นวิทยากรในงานเสวนาแบ่งปันความรู้ บทบาทแม่ยุคดิจิทัลที่ห้องประชุมชั้น ๕ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ เลขที่ ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ตามโครงการกิจกรรมเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้กับแม่และเด็กในชุมชน หัวข้อเรื่อง การเลี้ยงดูลูกในยุคสมัยดิจิทัล ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับ ที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ ๑๐ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นกฎหมายที่สําคัญ ประกอบกับร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ ๑๐ พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงมากนัก เมื่อไม่ปรากฏว่าจําเลยเคยกระทําผิดหรือได้รับโทษจําคุกมาก่อน กรณีมีเหตุสมควรปรานีแก่จําเลยเพื่อให้โอกาสจําเลยกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป
แต่เพื่อให้จําเลย หลาบจํา เห็นควรลงโทษปรับจําเลยในสถานหนัก พิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒ จําคุก ๑ ปี และปรับ ๒๐๐ ,๐๐๐ บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ หากจําเลยไม่ชําระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ กรณีต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังไม่เกิน ๑ ปี
คลิกอ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม >>>
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 65 น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ออกมายืนยันว่า จะเดินหน้าต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ เพราะโดยข้อเท็จจริงเป็นปัญหาการขัดข้องทางเทคนิคของเครื่องเสียบบัตรแสดงตน
"วันนั้นระบบเครื่องลงมติใช้งานจริงวันแรก มีปัญหาเครื่องขัดข้อง ด้วยความเป็น ส.ส.ใหม่ ไม่กล้าดึงบัตรออก เพราะยังถกเถียงเรื่องระบบมีปัญหา และตนรีบไปภารกิจงานเสวนาเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ ยืนยันไม่มีเจตนา ไม่เคยใช้ให้ใครกดบัตรแทน ก็ต้องเคารพการตัดสินของศาล เคสมาเกิดขึ้นที่เรา คำตัดสินอาจจะเป็นบรรทัดฐานให้เคสของพรรคอื่นที่กำลังตามมา แม้รายละเอียดจะต่างกรรมต่างวาระกันอย่างสิ้นเชิง ก็ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ ที่ประมาทเลินเล่อ ขั้นต่อไปก็ต้องต่อสู้ตามสิทธิและขอความเมตตาในชั้นอุทธรณ์"
"น.ส.ธณิกานต์" กล่าวว่า ตนเองในฐานะจำเลยที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญายังต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่โจทก์มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยมีการกระทำและเจตนากระทำความผิดจนปราศจากความสงสัย เรื่องนี้ การที่ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี แม้ดูไม่ร้ายแรง แต่จะมีผลทำให้ตนถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตเพราะขาดคุณสมบัติ ซึ่งตนมีข้อมูลพร้อมพิสูจน์ตัวเองและใช้สิทธิ์ตามกระบวนการในชั้นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ขอให้ศาลเมตตาให้ความเป็นธรรมโดยดูที่เจตนาและพิจารณาครบทุกองค์ประกอบรอบด้าน
"ทุกอย่างเกิดขึ้นย่อมมีเหตุปัจจัย มีหลายเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมและยากจะเข้าใจ บททดสอบสำหรับ ส.ส.สมัยแรกไม่ง่ายเลย ขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ส่งเข้ามา พี่ๆนักกฎหมายหลายคนที่ได้ดูเคสให้ก็ตกใจเพราะไม่ปรากฏหลักฐานใดว่ามีการกระทำเช่นนั้น ก็ให้เคารพคำพิพากษาศาล จะนำมาปรับปรุงและวางแนวทางการทำงานให้ละเอียดรอบคอบขึ้น เชื่อว่าอุปสรรคคดีทางการเมืองที่เจอจะทำให้ตนแข็งแกร่ง อดทน และเปิดมุมมองกว้างขึ้น" น.ส.ธณิกานต์ กล่าว