People's Daily เจ้าภาพประชุมสื่อฯ อาเซียน+3 เชื่อมโยงความร่วมมือ

หนังสือพิมพ์ People's Daily สื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลยูนนาน และรัฐบาลประชาชนมณฑลยูนนาน จัดการประชุมสื่อมวลชนอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ครั้งที่ 11 ในห้วงการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือด้านสื่อมวลชนในกรอบ "One Belt One Road" หรือ Belt and Road Media Cooperation Forum ที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสื่อมวลชน และผลักดันความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชนในกลุ่มประเทศอาเซียน และอาเซียน+3 ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยมีสื่อมวลชน และผู้แทนหน่วยงานด้านสื่อมวลชนใน 10 ประเทศอาเซียน และอาเซียน+3 เข้าร่วม ซึ่งนายคัชฑาพงศ์ ลีลาพงศ์ฤทธิ์ ผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี เป็นหนึ่งในผู้แทนสื่อมวลชนไทย เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

นายซุย ซื่อซิน บรรณาธิการใหญ่ หนังสือพิมพ์ People's Daily สื่อมวลชนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวนำเปิดการประชุมว่า อาเซียนเป็นเสมือนบ้านที่มีธรรมชาติ และวัฒนธรรมร่วมกัน ดังนั้น สันติภาพ และความร่วมมือ คือ ความปรารถนาร่วมกันของอาเซียน ที่กำลังเผชิญทั้งโอกาสการพัฒนาครั้งใหม่ และภัยคุกคามที่ซับซ้อน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เห็นว่า อาเซียนจะต้องมีความร่วมมือร่วมกัน เพื่อร่วมมือกันในการเผชิญต่อโลกที่ผันผวน และเพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อรักษาเสถียรภาพ และส่งเสริมความเจริญซึ่งกันและกัน

บรรณาธิการใหญ่ฯ People's Daily ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมา People's Daily ได้จัดการประชุมนี้มาแล้ว 10 ครั้ง ซึ่งประสบความสำเร็จในหมู่ประชาชนอย่างดี พร้อมยังได้ให้ข้อเสนอแนะนำให้สื่อมวลชนในอาเซียน และอาเซียน+3 ร่วมกันพิทักษ์สันติภาพในอาเซียน เพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรือง โดยเห็นว่า สื่อมวลชนควรรับผิดชอบศีลธรรมในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค และเป็นกระบอกเสียงแห่งสันติภาพของอาเซียน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจ สร้างพื้นที่ทางความคิดที่ปรองดอง พิทักษ์ และส่งเสริมสันติภาพอย่างยั่งยืน และร่วมกันขับเคลื่อนภูมิภาค เพราะอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพมาก ดังนั้น จะต้องถ่ายทอดเรื่องราวอย่างปราณีต ใส่ใจสันติภาพของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน เพื่อสนับสนุนความเจริญของอาเซียนร่วมกัน รวมถึงร่วมกันเผยแพร่อารยธรรมอาเซียน ที่มีความลึกซึ้งให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวถึงสังคมโลกให้เห็นคุณค่าแห่งยุคสมัยผ่าน ภาพยนตร์ ละคร ฯลฯ และร่วมเป็นผู้นำนวัตกรรมในอาเซียนอย่างกล้าหาญ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยี ได้เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารไป ดังนั้น สื่อมวลชน จะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง และใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างแข็งขัน เช่น Big Data หรือ AI และสร้างกลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมยังหวังว่า การประชุมครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างอนาคตร่วมกัน 

ด้าน นายเผย กวงเจียง รองผู้อำนวยการสำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์ People's Daily เห็นว่า สื่อมวลชน เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทุกประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการกระชับมิตรภาพ และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน ดังนั้น หนังสือพิมพ์ Daily's People จึงยินดีร่วมมือกับสื่อมวลชนทุกประเทศ เพื่อกระชับความร่วมมือให้บรรลุผลสำเร็จที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ และร่วมกันนำเสนอข่าวสารจากประเทศจีน และทั่วโลก เพื่อความผาสุกแก่ประชาชนทุกประเทศ 

นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมาความร่วมมืออาเซียน+3 เป็นรากฐานสำคัญของความเจริญรุ่งเรือง เสริมสร้างความเชื่องโยงทางเศรษฐกิจในภูมิภา และวางรากฐานตวามไว้วางใจระหว่างประเทศ ดังนั้น สื่อมวลชน จึงเป็นพลังอันแข็งแกร่งในการหลอมรวมประชาชนในภูมิภาค และส่งเสริมความเชื่อมโยงผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงกระจายผลประโยชน์การพัฒนาไปสู่ทุกฝ่าย ดังคำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กล่าวว่า ''มนุษย์ล้วนอยู่ในเรือลำเดียวกัน ความเจริญรุ่งเรืองต้องอาศัยกัน และการรับมือความท้าท้ายจำเป็นต้องพึ่งพาการร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย''

นายอัน เซียวยวี๋ บรรณาธิการใหญ่ CGTN (Chin Global Television Network) และผู้อำนวยการศูนย์ CMG (China Media Group) ภาคภาษาอาเซียน และแอฟริกา เห็นว่า ภูมิภาคเอเชีย มีคุณค่าที่เปิดกว้าง และมีสันติภาพ ดังนั้น สื่อมวลชน จึงควรร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาค ให้เป็นพลังส่งเสริมในการพัฒนาอาเซียน ซึ่งประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า ''เอเชียดี โลกถึงดี'' ดังนั้น CGTN จึงได้มีความร่วมมือ และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนสื่อมวลชนในอาเซียน และอาเซียน+3 มีความร่วมมือ และกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างสะพานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสื่อมวลชนกระแสหลักในประเทศอาเซียน เช่น รายการจับจ้องมองจีน ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ช่อง 22 เป็นต้น 

ทั้งนี้ สื่อมวลชน และผู้แทนหน่วยงานด้านสื่อมวลชนในประเทศอาเซียน และอาเซียน+3 เห็นพ้องในการสนับสนุนการเชื่อมต่อระหว่างกัน เพื่อสนับสนุนสันติภาพ นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ภูมิภาคอาเซียน และอาเซียน และด้วยความหลากหลายทางการค้า การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และภัยท้าทายอื่น ๆ สื่อมวลชนสามารถส่งเสริมความเข้าใจ และการรับมือให้กับประชาชนได้ รวมถึงสื่อมวลชน ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาในภูมิภาคอาเซียน ที่มีความหลากหลายทั้งภาษา อารยธรรมและวัฒนธรรม โดยสามารถเป็นสะพานเชื่อม และสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่าง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข พร้อมแนะนำให้ระวังข่าวปลอมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น