สื่อนอกมองถึงเลือกตั้งระดับชาติ การแหลกสลายของตระกูลชินวัตร

6 กันยายน 2568 สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ "เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส" (The New York Times) รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ได้รับการโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เป็นการเลือกที่ชี้ไปถึงการเลือกตั้งระดับชาติ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 4 เดือน หรือเดือนมกราคมปีหน้า ทั้งยังทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ครอบงำประเทศไทยมานานหลายเดือน ต้องยืดเยื้อออกไป

นายอนุทิน วัย 58 ปี เตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของไทยภายใน 2 ปี เขาจะเป็นผู้นำรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการหยุดยิงที่ยังไม่แน่นอนกับกัมพูชา และเศรษฐกิจที่อ่อนแอ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และภาษีนำเข้าของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ซึ่งการที่เขาเป็นที่รู้จักจากนโยบายกัญชาถูกกฎหมาย การได้เป็นนายกรัฐมนตรี อาจเป็นโอกาสที่เขาจะผลักดันนโยบายกัญชาอีกครั้ง โดยเขากล่าวไว้เมื่อไม่นานนี้ว่า เป้าหมายเดิมของเขาคือ การสร้างอุตสาหกรรมกัญชาที่ถูกควบคุมเพื่อใช้ในทางการแพทย์ และโต้แย้งว่าไม่ควรนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมายอาญาอีก

รายงานนี้ไปในทิศทางเดียวกับบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ที่ระบุว่า การได้รับเลือกของเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองคลี่คลายลง แต่ชัยชนะของเขาอาจนำมาสู่ความสงบทางการเมืองเพียงช่วงสั้นๆ โดย ปีเตอร์ มัมฟอร์ด หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของยูเรเซีย กรุ๊ป (Eurasia Group) บริษัทที่ปรึกษาและให้คำแนะนำความเสี่ยงทางการเมือง ให้ความเห็นว่า "การลงคะแนนเสียงเมื่อวันศุกร์ (5 กันยายน) ช่วยยุติเรื่องราวดรามาที่เกิดขึ้นทันที และน่าจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการเลือกตั้งกะทันหันในปีนี้ แต่เกมการเมืองในประเทศไทยน่าจะยังคงดำเนินต่อไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนายอนุทินพยายามขยายพันธมิตรรัฐบาลผสม ขณะที่ความท้าทายที่รออยู่ มีทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสงครามการค้าของทรัมป์ และข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียด

สื่อสิงคโปร์ "สเตรท ไทม์ส" (Straits Times) พาดหัวบทวิเคราะห์ว่า "อนุทิน นายกฯ ไทยคนใหม่ ก้าวผ่านวิกฤตการเมือง ขณะที่ตระกูลชินวัตรอยู่ในสภาพแหลกสลาย" เขาได้รับการลงคะแนนเสียง ด้วยการสัญญาว่า จะนำความสงบเรียบร้อยมาในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความโกลาหล หลังจากที่ตระกูลการเมืองที่มีอำนาจครองประเทศถูกขับออกจากตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่ง "ภายใต้ข้อตกลงกับพรรคประชาชนที่ว่าเขาจะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือนนับจากเข้ารับตำแหน่งและแถลงนโยบาย" การเลือกตั้งใหม่จะทำให้พรรคประชาชนมีโอกาสคว้าที่นั่งเพิ่มขึ้น เพราะมีคะแนนนำคู่แข่งอย่างขาดลอยในผลสำรวจความคิดเห็น ขณะที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักการเมืองที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกฯมากที่สุด



สื่อฮ่องกง เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (South China Morning Post) รายงานว่า "ชัยชนะของนายอนุทินได้รับการสนับสนุนอย่างไม่คาดคิด จากพรรคประชาชน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านและมีที่นั่ง สส.มากที่สุดในรัฐสภา พรรคนี้ตัดสินใจสนับสนุนนายอนุทินหลังจากที่มีการตกลงกันว่า นายอนุทินจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และการที่เขาสามารถเอาชนะนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทยได้ นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องสละอำนาจหลังบริหารงานที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายภายในพรรคและความไม่พอใจของประชาชน ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองมาหลายปี การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนอย่างต่อเนื่องของประเทศไทย ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของรัฐสภา และพันธมิตรทางการเมืองที่พลิกผัน"

สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ด้วยการสนับสนุนอย่างเด็ดขาดจากฝ่ายค้าน นายอนุทินได้คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคะแนนเสียงสำคัญที่ทำให้เขาได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ได้อย่างง่ายดาย นับเป็นการปิดฉากช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแย่งชิงอำนาจ โดยที่เขาสามารถวางกลยุทธ์เอาชนะพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้ นายอนุทินเป็นนักเจรจาต่อรองผู้ชาญฉลาด เป็นกำลังหลักในการเมืองไทยตลอดช่วงหลายปีแห่งความวุ่นวาย เขาวางตำแหน่งพรรคภูมิใจไทยอย่างมีกลยุทธ์ระหว่างชนชั้นนำที่ขัดแย้งกัน ซึ่งพัวพันกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ยากจะแก้ไข

ทั้งยังร่วมรัฐบาลผสมมาหลายสมัย "การที่เขาเอาชนะคู่แข่งอย่างนายชัยเกษม ถือเป็นความอัปยศสำหรับพรรคเพื่อไทย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพรรคประชานิยม ที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ ภายใต้อิทธิพลของมหาเศรษฐี "ทักษิณ ชินวัตร" ที่เดินทางออกจากประเทศไทยในช่วงค่ำของวันพฤหัสบดี (4 กันยายน) ไปยังดูไบ สถานที่ที่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วง 15 ปีของการลี้ภัย