
17 กรกฎาคม 2568 ตามเขตเมืองในหลายพื้นที่ของโลก ต่างก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันเวลาที่ฝนตกหนัก คือน้ำท่วมขังรอการระบาย จากสภาพภูมิประเทศที่มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนอย่างหนาแน่น ยิ่งเมืองที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ทำให้ต้องเจอกับสภาวะน้ำทะเลหนุนเป็นประจำ และทำให้การระบายน้ำท่วมขังเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่งขึ้น และเมื่อการระบายน้ำฝนที่ท่วมขังไม่ทัน ก็ทำให้เกิดสารพัดปัญหา ทั้งการจราจรติดขัด ปัญหาด้านสุขอนามัยจากน้ำขัง
ทำให้เป็นที่มาของการจัดเก็บภาษีที่บางคนอาจจะมองว่า "แปลก" จากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกมองว่า ทำให้พื้นดินรองรับน้ำฝนได้น้อยลง หรือขัดขวางการระบายน้ำตามธรรมชาติ
บางประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนีและเบลเยียม และบางรัฐของสหรัฐฯ มีภาษีที่เรียกว่า "ภาษีน้ำฝน" (stormwater Fee) หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า Rain tax ที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต้องจ่าย ถ้าพบว่า บริเวณบ้านไม่มีพื้นที่ให้น้ำซึมลงดิน หรือระบายได้ เช่น โรงจอดรถหรือพื้นที่คอนกรีตหน้าบ้าน
ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีการจัดเก็บภาษีประเภทนี้ ก็เพราะว่า ในบางเมืองเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น ท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายออกได้ทันในช่วงที่ฝนตกหนัก ยิ่งในพื้นที่ที่น้ำไม่สามารถซึมลงดินได้ น้ำทั้งหมดจะประดังกันไหลลงท่อ ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณในการจัดการน้ำ ทั้งเรื่องการบำรุงรักษาและการป้องกันน้ำท่วม จึงกำหนดให้เจ้าของที่ดินต้องร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ด้วยการเก็บภาษีตามพื้นที่ที่ไม่ซึมน้ำของแต่ละบ้าน
"ภาษีน้ำฝน" ถูกออกแบบมาให้ประชาชนจัดการน้ำฝนด้วยตนเอง เช่น การทำพื้นที่ซึมน้ำ หรือระบบระบายน้ำฝนในบริเวณบ้าน ถ้าบ้านไหนมีระบบระบายน้ำฝนในบ้านของตัวเอง ภาษีอาจลดลงหรือถูกยกเว้น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของเทศบาลนอร์ทไมอามี (North Miami) รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ระบว่า การเก็บภาษีน้ำฝน เป็นในรูปแบบของค่าธรรมเนียมรายเดือน ที่เรียกเก็บจากเจ้าของอสังหาฯ โดยแนบมาพร้อมกับใบเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภค (Utility Bill) หรือบิลค่าน้ำค่าไฟ ส่วนค่าธรรมเนียมที่เก็บได้ จะถูกนำไปใช้เพื่อบำรุงรักษาการดำเนินการปรับปรุงระบบการจัดการน้ำฝนของเมือง เช่น การปรับปรุงท่อระบายน้ำฝน การขุดลอกท่อระบายน้ำฝน ไปจนถึงการศึกษาและวิจัยโปรแกรมเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำตามที่เทศบาลของเมืองเห็นสมควร
ส่วนภาษีน้ำฝนในยุโรป เรียกว่าเป็นค่าธรรมเนียมชุมชน ที่เรียกเก็บจากน้ำที่ไหลเข้าสู่ระบบท่อระบายน้ำสาธารณะ ที่มาจากอสังหาฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล เมื่อระดับน้ำเสียสูงขึ้น ระบบระบายน้ำฝนแบบเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับปริมาณน้ำได้ ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วม จึงต้องอาศัยหน่วยงานสาธารณูปโภคเข้ามามีส่วนร่วม ภาษีจึงถูกใช้แบบครอบคลุมการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เช่น การทำความสะอาดและเปลี่ยนท่อระบายน้ำ