"ทรัมป์" เดือด รายงานลับโจมตีอิหร่าน รั่ว โพสต์ประจาน 2 สำนักข่าว
"โดนัลด์ ทรัมป์" ถึงกับโพสต์ประจาน New York Times กับ CNN ในระหว่างไปร่วมประชุมสุดยอด NATO ที่แฉว่าโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ไม่บุบสลายจากการโจมตี
25 มิถุนายน 2568 หลังจาก New York Times กับ CNN เสนอรายงานเกี่ยวกับ "ความล้มเหลว" ในการใช้ "ปฏิบัติการค้อนเที่ยงคืน" (Operation Midnight Hammer) ถล่มโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียม 3 แห่ง ได้แก่ นาทานซ์ กับฟอร์โดว์ และการยิงขีปนาวุธ Tomahawk จากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โจมตีโรงงานอิสฟาฮาน แต่กลับไม่สามารถทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ เพียงแค่ทำให้ล่าช้าออกไปไม่กี่เดือนเท่านั้น
รายงานของสำนักข่าวทั้ง 2 แห่ง ได้อ้างรายงานลับที่จัดทำโดยหน่วยข่าวกรองกลาโหม ในสังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ที่ประเมินการโจมตีเมื่อวันเสาร์ (21 มิถุนายน)ว่า เพียงแค่ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านล่าช้าออกไปไม่กี่เดือนเท่านั้น โดยแม้ว่าทางเข้าทั้ง 2 แห่ง ของโรงงานจะถูกปิดเพราะถูกโจมตี แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจาก ระเบิดเจาะบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สุด (Massive Ordnance Penetrator) หรือ MOP ซีรีส์ GBU-57 น้ำหนัก 30,000 ปอนด์ ทั้งที่เชื่อกันว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวที่สามารถทำลายบังเกอร์อันแข็งแกร่งของโรงงานนิวเคลียร์ ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินได้
รายงานยังอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทำรายงานด้วยว่า คลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และมีบางส่วนถูกเคลื่อนย้ายออกไปตั้งแต่ก่อนการโจมตีแล้ว โดยความเสียหายส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่โครงสร้างเหนือพื้นดิน
ทำเนียบขาว ได้ประนามรายงานข่าวนี้ว่า "เป็นความพยายามอย่างชัดเจนที่จะดูหมิ่นประธานาธิบดี" เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงยืนยันว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ประสบความสำเร็จในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างราบคาบ และอวดด้วยว่า ไม่มีกองกำลังทหารใดในโลก ที่จะทำได้เช่นนั้น
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า รายงานการประเมินที่เผยแพร่ออกมานี้ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง ทั้งที่ถูกจัดว่าเป็นข้อมูล "ลับสุดยอด" แต่กลับถูกเปิดเผยต่อสื่ออย่าง CNN โดย "คนขี้แพ้ระดับล่าง" ที่ไม่เปิดเผยตัวในชุมชนข่าวกรอง การรั่วไหลของผลการประเมินนี้ เป็นความพยายามอย่างชัดเจนในการดูหมิ่นประธานาธิบดีทรัมป์ และทำให้ชื่อเสียงของนักบินขับไล่ผู้กล้าหาญ ที่ปฏิบัติภารกิจทำลายล้างโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างสมบูรณ์แบบต้องเสื่อมเสีย เธอย้ำด้วยว่า "ทุกคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทิ้งระเบิดหนัก 30,000 ปอนด์ 14 ลูก ลงบนเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"ทรัมป์" ซึ่งอยู่ระหว่างการไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ที่นครเฮ้ก ของเนเธอร์แลนด์ ถึงกับเดือดดาลเมื่อได้เห็นรายงานข่าวนี้ โดยเขาโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย Truth Social ของเขา เมื่อเวลาเกือบ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประนามว่าเป็นข่าวปลอม "fake news" ที่ CNN กับ New York Times แท็กทีมกันดูหมิ่นการโจมตีทางทหาร ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ฐานนิวเคลียร์ในอิหร่านถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว และ New York Times กับ CNN ก็กำลังถูกโจมตีโดยประชาชน!
"ความเดือดดาลของ "ทรัมป์" ยังรวมการที่เขาใช้คำหยาบตำหนิ "อิสราเอล" กับ "อิหร่าน" ที่ต่างละเมิดข้อตกลงหยุดเป็นเวลา 12 ชั่วโมง โดยในขณะให้สัมภาษณ์ที่กำลังออกอากาศสดทางโทรทัศน์ ก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ประจำตำแหน่ง "Marine One" เขาได้หลุดคำหยาบ "f....." ก่อนไปร่วมการประชุม NATO ขณะที่พูดถึงสองประเทศว่า พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่"
