svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

เปิด "ปฏิบัติการค้อนเที่ยงคืน" (Operation Midnight Hammer) ภารกิจลับสุดยอด เงียบเชียบ และแม่นยำ สร้างความเสียหาย และ "อิหร่าน" ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย

23 มิถุนายน 2568 ฝูงบินทิ้งระเบิด "B-2 Stealth Bomber" ที่ราคาแพงและล้ำสมัยที่สุดในโลก และได้รับฉายาว่า "ผู้พิทักษ์ที่มองไม่เห็น" (Invisible Defenders) จำนวน 9 ลำ ได้รับมอบหมายให้มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการค้อนเที่ยงคืน" (Operation Midnight Hammer) โดยที่ใต้ปีกของเครื่องบินแต่ละลำ ได้บรรทุกระเบิดขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา 2 ลูก คือ GBU-57 หรือที่เรียกในภาษาทหารว่า "ระเบิดเจาะบังเกอร์ขนาดใหญ่" หรือ MOP  (Massive Ordnance Penetrator) 

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

แม้กระทั่งที่ฐานทัพอากาศไวท์แมน (Whiteman) ในรัฐมิสซูรี รายละเอียดของภารกิจนี้ ก็ยังเป็นความลับที่ได้รับการปกป้องอย่างดี ฝูงบินทั้ง 9 ลำ บินเป็นรูปสามเหลี่ยม หลังทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศ หลังจากเที่ยงคืนเล็กน้อยตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์(21 มิถุนายน 2568 ) เพื่อเริ่มภารกิจที่กินเวลา 37 ชั่วโมง ที่สร้างเซอร์ไพรซ์ไปทั่วโลก

ในขณะที่โลกกำลังปรับตัวเตรียมรับแรงกระแทกจากปฎิบัติการค้อนเที่ยงคืน และยังไม่มีรายละเอียดออกมามากนัก แต่มีรายงานว่า ภารกิจนี้ได้รับการวางแผน และซักซ้อมล่วงหน้ามาหลายปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่เป็นความหวังว่าจะนำไปสู่จุดสิ้นสุดของการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับ "อิหร่าน" ที่ยาวนานถึง 45 ปี นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอิสลาม 

ฝูงบิน "B-2" ไม่ได้ตรงไปอิหร่าน แต่ไปที่เกาะกวม ดินแดนของสหรัฐฯ ในไมโครนีเซีย-แปซิฟิก และเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซน ห่างจากอิหร่านถึง 4,000 ไมล์ ก่อนที่ "B-2" เพียง 7 ลำ จะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายคือ โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งคือ เนทานซ์, ฟอร์โดว์ และเอสฟาฮาน และเป็นปฏิบัติการที่เงียบเชียบโดยไม่ถูกตรวจพบนานถึง 18 ชั่วโมง และใช้เครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศหลายลำ เพื่อให้ฝูงบิน "B-2" ปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่น

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

พลเอกแดน เคน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ได้อธิบายในระหว่างการแถลงข่าวว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความประหลาดใจเชิงยุทธวิธี (Tactical surprise) หรือ การโจมตีอีกฝ่ายโดยไม่ทันให้ตั้งตัว การเดินทางเข้าไปในแปซิฟิก เป็นเพียง "ตัวล่อ" และรู้กันในหมู่ผู้วางแผนและฝ่ายบริหารเพียงไม่กี่คนในวอชิงตัน ดีซี และศูนย์บัญชาการกลาง

ปฏิบัติการค้อนเที่ยงคืน มีความซับซ้อนอย่างยิ่ง นอกจากจะลดจำนวน B-2 เหลือ 7 ลำแล้ว ยังใช้เครื่องบินขับไล่ F-22 แรปเตอร์ (F-22 Raptors) ที่เบาและคล่องตัวกว่าหลายลำคอยคุ้มกัน แต่การยิงเปิดฉากของสหรัฐฯ ไม่ได้มาจากเครื่องบินเหล่านี้ แต่มาจากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในทะเลอาหรับ โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เรือดำน้ำสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ ได้ยิงขีปนาวุธร่อน "โทมาฮอว์ค" (Tomahawk) มากกว่า 20 ลูก เปิดฉากก่อน

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

 

นับตั้งแต่เริ่มไปจนสิ้นสุดปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ที่ใช้ระเบิดบังเกอร์ บัสเตอร์ 14 ลูก ขีปนาวุธโทมาฮอว์ค มากกว่า 2 โหล และเครื่องบินทหารมากว่า 125 ลำ เป็นไปอย่างลับสุดยอดจน "อิหร่าน" ไม่ได้ระแคะระคาย ไม่มีการยิงต่อต้านออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งฝูงบินขับไล่ และเรือรบที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการไม่ได้ถูกโจมตีแต่อย่างใด

 

เปิดแผนปฏิบัติการ "ค้อนเที่ยงคืน" ภารกิจลับสุดยอด สหรัฐฯ

https://x.com/i/status/1936633501303841093

"โทมาฮอว์ค" -- https://x.com/i/status/1936600621450502406 

                      -- https://x.com/i/status/1936611601093968148