สื่อนอกชี้ "พรรคเพื่อไทย" ใกล้ล่ม การเมืองไร้เสถียรภาพ

19 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว AFP รายงานว่า นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เผชิญเสียงเรียกร้องให้ลาออก หลังคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับ "ฮุน เซน" อดีตผู้นำ กัมพูชา หลุดออกมา สร้างความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง และพันธมิตรร่วมรัฐบาลคนสำคัญตีจาก 

รัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยของ "แพทองธาร" กำลังใกล้ล่มสลาย ทำให้ราชอาณาจักรไทย เข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ ขณะที่ รัฐบาลกำลังพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย และหลีกเลี่ยงภาษีการค้าที่ผันผวนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ 

รายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 "พรรคภูมิใจไทย" ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่สุดของพรรคเพื่อไทย ได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า พฤติกรรมของ "แพทองธาร" ในคลิปเสียงที่รั่วออกมานั้น ส่งผลกระทบต่อประเทศและศักดิ์ศรีของกองทัพ

การสูญเสีย ส.ส. 69 คน ของพรรคภูมิใจไทย ทำให้รัฐบาล "แพทองธาร" มีคะแนนเสียงไม่เพียงพอในการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาฯ และการเลือกตั้งอย่างกระทันหัน ก็ดูมีความเป็นไปได้อย่างชัดเจน โดยห่างจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2566 เพียง 2 ปี

AFP รายงานด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรค คือ พรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ จะจัดการประชุมด่วน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ (19 มิถุนายนนี้) ซึ่งการเสียพรรคใดพรรคหนึ่งไป อาจหมายถึงการสิ้นสุดของรัฐบาลของ "แพทองธาร" และนำไปสู่การเลือกตั้ง หรือความพยายามของพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่

กระแสเรียกร้องให้ลาออก "พรรคพลังประชารัฐ" ที่เคยเป็นแกนนำรัฐบาล เมื่อปี 2566  และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ที่สนับสนุนรัฐประหารสมัยรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ซึ่งเป็นอาของ "แพทองธาร" ได้ร่วมเรียกร้องให้แพทองธาร ลาออก เช่นเดียวกับพรรคประชาชน และพรรคไทยสร้างไทย ที่เป็นฝ่ายค้าน

รายงานยังระบุถึงบทบาทของกองทัพและการรัฐประหาร โดยบอกว่า กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญต่อการเมืองของราชอาณาจักรไทยมาอย่างยาวนาน และนักการเมืองมักจะระมัดระวังที่จะไม่สร้างความขัดแย้งกับกองทัพ โดยได้เกิดรัฐประหารมาหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่การสิ้นสุดของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อปี 2475 และวิกฤตการณ์ในปัจจุบัน ได้จุดชนวนข่าวลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าอาจจะมีการรัฐประหารอีกครั้ง

"ถ้าแพทองธาร ถูกรัฐประหาร เธอก็จะเป็นสมาชิกคนที่ 3 ของตระกูล ที่ต้องออกจากตำแหน่งด้วยวิธีนี้ต่อจากอา และพ่อของเธอ"