
บริษัทวอลโว่ คาร์ส ซึ่งมีสำนักงานในสวีเดน และกลุ่มบริษัทจีลี่ โฮลดิ้ง ของจีนเป็นเจ้าของ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะตัดลดพนักงานราว 3,000 คน ที่ส่วนใหญ่ประจำการในสำนักงานในสวีเดน และคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% ของพนักงานออฟฟิศ โดยบริษัทกำลังพยายามชุบฟื้นธุรกิจ และกระตุ้นยอดขายด้วยการปรับโครงสร้างธุรกิจและการตัดรายจ่าย
เมื่อเดือนที่แล้วฮากัน ซามูเอลสัน ซีอีโอ ประกาศแผนตัดลดรายจ่าย 1,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการตัดลดพนักงานออฟฟิศจำนวนมาก จากที่มีอยู่ 40% ของพนักงานทั้งหมด โดยครอบคลุมทั้งฝ่ายวิจัยและพัฒนา, สื่อสาร และทรัพยากรบุคคล
ล่าสุดซามูเอลสัน ระบุในแถลงการณ์ว่า การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เป็นมาตรการสำคัญในช่วงที่อุตสาหกรรมเผชิญความท้าทาย
อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงทั้งการขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์นำเข้า 25% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ, ต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น, และยอดขายที่ชะลอลงในยุโรป
ต้นเดือนนี้วอลโว่ เผยว่า ยอดขายของบริษัทในทั่วโลกในเดือนเมษายนลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
และเมื่อวันศุกร์ทรัมป์เพิ่งขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ก่อนเปลี่ยนใจเลื่อนเวลาเส้นตายจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคมเพื่อให้มีการเจรจาต่อรองกัน
วอลโว่ คาร์ส มีสำนักงานใหญ่ในเมืองโกเทนเบิร์ก ของสวีเดน มีโรงงานผลิตสำคัญในสวีเดน, เบลเยียม, จีน และสหรัฐฯ บริษัทฟอร์ดของสหรัฐฯ ขายวอลโว่ให้กับบริษัทจีลี่ของจีนเมื่อปี 2553 และเนื่องจากการผลิตส่วนใหญ่ของวอลโว่อยู่ในยุโรปและจีน ทำให้จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีทรัมป์มากกว่าบริษัทคู่แข่งรายอื่นในยุโรป