
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เผยกับสื่อเมื่อวันอาทิตย์ (25 พฤษภาคม) ว่า เขาได้คุยโทรศัพท์กับอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเธอบอกว่า ต้องการให้เลื่อนเส้นตายการเก็บภาษีศุลกากรอัตราใหม่ที่ 50% จากวันที่ 1 มิถุนายนเป็นวันที่ 9 กรกฎาคมเพื่อเจรจาทำข้อตกลงที่ดี และหลังการพูดคุยที่ดี จึงตอบตกลง
เมื่อเดือนที่แล้วทรัมป์ประกาศเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป หรือ อียู 20% แต่ต่อมาลดเหลือ 10% จนถึงวันที่ 8 กรกฎาคมเพื่อให้มีเวลาเจรจา และเมื่อวันศุกร์ (23 พฤษภาคม) เขาแสดงความไม่พอใจที่การเจรจาไม่คืบ พร้อมกับขู่ว่าจะขึ้นภาษีกับอียูเป็น 50%
ขณะเดียวกันในเดือนที่แล้วอียูประกาศจะเก็บภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 18,000 ล้านยูโรเป็นการตอบโต้ แต่ระงับไว้ และปัจจุบันกำลังพิจารณาว่าจะขึ้นภาษีกับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 95,000 ล้านยูโร หากการเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
ทรัมป์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า อียูดำเนินการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอย่างมาก และจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ในปีที่แล้ว อียูส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์ แต่นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพียง 370,000 ล้านดอลลาร์