ตั้งข้อหามือปืน ยิง จนท.สถานทูตอิสราเอลเสียชีวิตในวอชิงตัน

เอเลียส โรดริเกซ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลเสียชีวิต 2 คน ที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ชาวยิวในกรุงวอชิงตันเมื่อคืนวันพุธ (21 พฤษภาคม) ถูกนำตัวขึ้นศาลในวันพฤหัสบดี (22 พฤษภาคม) และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, ฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ต่างชาต, ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตด้วยอาวุธปืน และการใช้ปืนก่อความรุนแรง

เจนีน พีร์โร รักษาการอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ แถลงในเวลาต่อมาว่า การสอบสวนกำลังมุ่งประเด็นการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง และการก่อการร้าย และกำลังตรวจสอบหาหลักฐานการกระทำผิดอื่น ๆ โดยอาจมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติม นอกจากนี้เธอ ระบุว่า คดีนี้อาจมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า อัยการจะตัดสินใจร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาโทษประหารชีวิต

ตำรวจ เผยว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล 2 คน ได้แก่ ยารอน ลิสชินสกี วัย 30 ปี และซาราห์ ลินน์ มิลกริม วัย 26 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ชาวยิว โดยผู้ต้องสงสัยเปิดฉากยิงใส่กลุ่มคน 4 คน ที่เดินออกจากงานที่จัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ และเขาถูกจับกุมเพียงครู่เดียวหลังเกิดเหตุ  

และสถานทูตอิสราเอลในกรุงชิงตัน เปิดเผยด้วยว่า เหยื่อทั้งสองคนเป็นคู่รักที่มีแผนแต่งงานกัน โดยฝ่ายชายได้ซื้อแหวนเพื่อเตรียมขอแฟนสาวแต่งงาน

ตำรวจ ระบุด้วยว่า ผู้ต้องสัยวัย 30 ปีมาจากเมืองชิคาโก และตะโกนคำว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” หลังถูกเจ้าหน้าที่รวบตัว นอกจากนี้คำให้การ ระบุว่า เขาบอกกับตำรวจว่า เขาทำเพื่อชาวปาเลสไตน์ และฉนวนกาซา

ผู้ต้องสงสัยเดินทางถึงวอชิงตันเพียงหนึ่งวันก่อนก่อเหตุ และปืนที่ใช้ก่อเหตุถูกซื้ออย่างถูกกฎหมายในรัฐอิลลินอยส์ในปี 2563  และจากการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดียของเขา พบว่า เขามีส่วนร่วมในการประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์อย่างมาก  และงานเขียนออนไลน์ที่เชื่อว่าเป็นของเขา มีเนื้อหากล่าวหาว่า อิสราเอลก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา, วิจารณ์นโยบายของสหรัฐฯ และพูดถึงการใช้ความรุนแรงทางการเมือง

เหตุการณ์รุนแรงต่อชาวยิวล่าสุดมีขึ้นหลังอิสราเอลเผชิญกระแสโกรธแค้นเพิ่มขึ้นในทั่วโลก สืบเนื่องจากการทำสงครามในฉนวนกาซา ที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 53,000 คน และมีการปิดกั้นไม่ให้ชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนได้รับอาหารหรือสิ่งของจำเป็นขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน

ทั้งนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล, ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และผู้นำโลกหลายคนล้วนประณามเหตุฆาตกรรมและกระแสต่อต้านชาวยิว และผู้นำอิสราเอล ประกาศด้วยว่าจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้แทนและนักการทูตอิสราเอลในทั่วโลก