
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แสดงความเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับผลการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่สวิตเซอร์แลนด์ช่วงสุดสัปดาห์ ในพิธีเปิดการประชุม China-CELAC Forum ที่กรุงปักกิ่งในวันอังคาร (13 พฤษภาคม) ที่มีระดับผู้นำชาติละตินอเมริกาและแคริบเบียนเข้าร่วมประชุม
เขากล่าวว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีหรือสงครามการค้า การรังแกหรือการใช้อำนาจครอบงำมีแต่จะนำไปสู่การโดดเดี่ยวตัวเอง ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของจีนที่ประกาศมาตลอดนับจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดฉากสงครามการค้า และพยายามแสดงบทบาทการเป็นผู้ปกป้องการค้าโลก และโน้มน้าวให้ประเทศอื่น ๆ ร่วมกันต่อต้านการรังแกของสหรัฐฯ
ผู้นำจีนยังกล่าวด้วยว่า จีนจะกระชับความสัมพันธ์กับละตินอเมริกาและแคริบเบียนมากขึ้น และมูลค่าการค้าระหว่างจีนและภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ครั้งแรกในปีที่แล้ว นอกจากนี้ภายใต้กระแสการเผชิญหน้าทางภูมิรัฐศาสตร์ และกระแสการกระทำฝายเดียวและการกีดกันการค้า จีนพร้อมร่วมมือกับหุ้นส่วนในละตินอเมริกาและแคริบเบียน
ถ้อยแถลงของผู้นำจีนมีขึ้นหลังจากคณะเจรจาของสหรัฐฯ และจีน ประกาศเมื่อวันจันทร์ (12 พฤษภาคม) บรรลุข้อตกลงร่วมกันว่าจะลดภาษีนำเข้าสินค้า 115% เบื้องต้นเป็นเวลา 90 วัน หลังจากการเจรจานาน 2 วันช่วงสุดสัปดาห์ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนลดลงเหลือ 30% และอัตราภาษีของจีนลดลงเหลือ 10% โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 14 พฤษภาคม
นอกจากนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ อินฟลูเอนเซอร์และสื่อทางการจีนแสดงความเห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นชัยชนะของจีน โดยโพสต์ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน ระบุว่า มาตรการตอบโต้อย่างหนักแน่นและจุดยืนที่เด็ดเดี่ยวของจีนมีประสิทธิภาพอย่างมาก ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า ข้อตกลงเป็นก้าวสำคัญ แต่สหรัฐฯ ควรแก้ไขการขึ้นภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมด
นักวิเคราะห์มองด้วยว่า ข้อตกลงตอบสนองข้อเรียกร้องของจีนเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จีนคาดหวัง คือ สหรัฐฯ ยอมถอย และเชื่อว่า จีนมีความมั่นใจว่าตัวเองมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าในการเจรจาใด ๆ ต่อจากนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า ข้อตกลงเป็นชัยชนะทางการค้าครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่นกัน และทั้งสองฝ่ายเตรียมพบเจรจากันอีกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อเพิ่มรายละเอียดของข้อตกลง
นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกด้วยว่า เขาอาจพูดคุยกับประธานาธิบดีสีช่วงปลายสัปดาห์นี้