
ไฟปะทุขึ้นอีกหลายจุดภายในท่าเรือชาฮิด ราจาอี ในเมืองบันดาส อับบาร์ของอิหร่านเมื่อคืนวันอาทิตย์ หลังเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงพยายามควบคุมเพลิง ท่ามกลางควันดำหนาทึบ เศษซากโลหะของตู้คอนเทนเนอร์และสินค้ากระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างในอาคารไกลออกไปหลายกิโลเมตรแตกเสียหาย
สื่อทางการ รายงานว่า จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ว่า สามารถควบคุมเพลิงได้ 90% และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 40 คน และผู้บาดเจ็บมากกว่า 1,200 คน
รัฐบาลอิหร่านประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศหนึ่งวันในวันจันทร์ และโมฮัมหมัด อาชูรี ผู้ว่าการจังหวัดฮอร์มอซกัน ประกาศไว้อาลัย 3 วัน
ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน เดินทางไปตรวจพื้นที่เสียหายที่ท่าเรือ และเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิด ขณะเดียวกันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งให้เครื่องบินดับเพลิงไปช่วยเหลืออิหร่านในการควบคุมเพลิง
ขณะที่ชาวอิหร่านกำลังตั้งคำถามถึงสาเหตุของการระเบิด และอยากรู้ว่าควรเชื่อกระแสข่าวที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียว่า กองทัพและกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) เก็บเชื้อเพลิงขีปนาวุธที่นำเข้าจากจีนไว้ที่ท่าเรือไม่
แอมเบรย์ อินเทลลิเจนซ์ บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางทะเล เผยว่า ไฟไหม้รุนแรงที่ลุกไหม้ระหว่างตู้คอนเทนเนอร์ก่อนการระเบิดอาจเป็นผลจากการจัดการอย่างไม่เหมาะสมกับเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้ในขีปนาวุธทิ้งตัว และเรืออิหร่านขนถ่ายสารโซเดียมเปอร์คลอเรตที่เป็นเชื้อเพลิงแข็งที่ท่าเรือเมื่อเดือนมีนาคม 2568
และนิวยอร์กไทม์ส รายงานอ้างคนใกล้ชิด IRGC บอกว่า สิ่งที่เกิดการระเบิด คือ สารโซเดียวเปอร์คลอเรต ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้ในขีปนาวุธ
แต่ล่าสุดโฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า ไม่มีการนำเข้าหรือส่งออกเชื้อเพลิงของกองทัพ หรือวัตถุสำหรับใช้ประโยชน์ทางทหารในท่าเรือ และรายงานของสื่อต่างประเทศไม่มีมูลความจริง
ขณะที่หน่วยงานศุลกากรที่ท่าเรือ ออกแถลงการณ์ก่อนหน้าว่า การระเบิดอาจเกิดจากไฟไหม้ในบริเวณโกดังเก็บวัสดุอันตรายหรือสารเคมี
นอกจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิดแล้ว ยังเกิดคำถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและเป็นจุดนำเข้าสินค้าเกือบ 80% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ โดยเมื่อวันเสาร์ทางการเตือนว่าอาจเกิดการขาดแคลนอาหารในระยะเวลาอันใกล้ แต่ในวันต่อมา บอกว่า ระเบิดสร้างความเสียหายเพียงส่วนหนึ่งของท่าเรือ ส่วนพื้นที่อื่นยังมีการทำงานโดยปกติ
ภาพจาก SOCIAl MEDIA via REUTERS