เสียงระนาดจะก้องกังวานสะกดใจอีกครั้ง เมื่อโครงการ “ตามรอยขุนอิน 20 ปี โหมโรง” ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีบุคคลสำคัญในแวดวงดนตรีไทย และนักแสดงนำจากภาพยนตร์โหมโรง รวมทั้งผู้สนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน จับมือกันเพื่อรำลึกถึงภาพยนตร์ที่สร้างตำนานดนตรีไทยและส่งเสริมให้เยาวชนที่มีใจรักดนตรีไทย ได้มีเวทีแสดงความสามารถ
พร้อมโดยในช่วงเช้า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดฉายภาพยนตร์เรื่องโหมโรง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีไทย และได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของหลวงประดิษฐไพเราะ
ต่อด้วยการเสวนาเรื่อง “20 ปี ภาพยนตร์โหมโรง” โดยมีผู้ร่วมพูดคุย ได้แก่ อาจารย์บุญสร้าง เรืองนนท์, อาจารย์อัษฎาวุธ สาคริก เลขาธิการ มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ, อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ และว่าน-ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง เพื่อย้อนปรากฏการณ์ที่ปลุกให้คนไทยหันมานิยมดนตรีไทย
ส่วนภาคบ่าย เป็นการแถลงข่าว “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” เปิดงานด้วยการแสดงประชันระนาดเอกเชิดต่อตัว โดยลูกศิษย์อาจารย์ขุนอิน เรียกเสียงปรบมือกึกก้องหอประชุมเล็ก จากนั้นได้เชิญผู้เกี่ยวข้องขึ้นมาร่วมพูดคุยบนเวที ได้แก่ นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า ผู้บริหาร บริษัทขุนอิน โชว์ จำกัด นายวีระพล มงคลพูนเกษม ผู้บริหาร เคเค ริเวอร์ไซด์รีสอร์ท แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และนายประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด (เพ ลา เพลิน เดอะ เจอร์นีย์ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี)
อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า กล่าวในฐานะคนต้นคิดโครงการว่า เพื่อเป็นการระลึกถึงภาพยนต์เรื่องโหมโรงที่มีอายุครบ 20 พร้อมๆ กับอยากกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนที่ตีระนาดเอกได้มีการตื่นตัวมากขึ้น มีการฝึกซ้อมมากขึ้นกว่าเดิม อีกเหตุผลสำคัญคือเป็นการยกระดับการประกวดระนาดเอกด้วย “ปัจจุบันการประกวดดนตรีไทยมีการจัดกันอย่างเเพร่หลายก็จริง เเต่การประกวดในเเต่ละสถาบันจะไม่มีค่าใชัจ่าย หรือเงินรางวัลให้เเก่เด็ก แต่การประกวดครั้งนี้จะมีรางวัลชนะเลิศให้กับเด็กสูงถึงห้าหมื่นบาท ถือว่าเป็นเงินรางวัลสูงสุดในประวัติศาตร์ นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดเเชมป์ให้กับผู้ชนะเลิศ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวงการดนตรีไทยครับ”
สำหรับการจัดการประกวดครั้งนี้ “ขุนอิน” ย้ำว่า ได้เปิดให้ส่งผลงานทางออนไลน์จนถึงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗ และจะมีประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน ๑๐ คน ผ่านทางเพจ Facebook : ตามรอย ขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง ในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ ส่วนผลรอบชิงชนะเลิศ จะประกาศในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๗ ณ KK Riverside Resort ที่พัก พูลวิลล่า แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
หลังจากได้ผู้ชนะการคัดเลือกทั้ง ๒ สายแล้ว ผู้เข้าประกวดจะต้องบรรเลงประชันต่อหน้าคณะกรรมการอีกครั้ง โดยจับฉลากบรรเลงก่อนหลัง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะอันดับ ๑ ซึ่งผู้ได้รับการตัดสินรางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมเข็มขัดแชมป์ และเกียรติบัตร ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ จำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลสำหรับผู้เข้ารอบ ๘ คน จำนวนเงินคนละ ๒,๕๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร