ชาวบ้านชายแดน ห่วงน้องหมาสุดรัก ประกาศหาบ้านใหม่ให้น้อง

17 ตุลาคม 2568 ที่บ้านโนนสว่าง หมู่ 3 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 7 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านเป็นหญิงรายหนึ่ง ประกาศตามหาเจ้าของใหม่ให้กับสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ที่เลี้ยงไว้สุดรัก 2 ตัว เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนตามแนวชายแดน ทำให้รู้สึกกังวลว่าอาจต้องอพยพออกจากพื้นที่อีกครั้ง จึงจำเป็นต้องหาคนใจดีมาดูแลแทน

 

โดย น.ส.ไพริน ยอดคำมี อายุ 39 ปี ชาวบ้านบ้านโนนสว่าง พาผู้สื่อข่าวไปพบกับ “น้องฮักกี้” สุนัขเพศเมีย อายุ 3 ปี และ “น้องคอปเตอร์” เพศผู้ อายุ 1 ปี เป็นลูกของฮักกี้ ทั้งสองตัวมีขนสีขาวปนเทาน้ำตาล หน้าตาน่ารัก ฉลาด ร่าเริง เป็นมิตร ขี้เล่น

 

น.ส.ไพริน เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า แม้ในขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่มีเหตุปะทะหรือรุนแรงเกิดขึ้น แต่ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะเขต อ.กันทรลักษ์ ต้องอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังตลอดเวลา ทุกคนต้องเตรียมพร้อมอพยพได้ทุกเมื่อ ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงน้องหมาทั้ง 2 ตัว ที่เลี้ยงมาอย่างดีตั้งแต่เล็ก รักเหมือนลูก แต่พอได้ยินข่าวว่าชายแดนอาจจะมีเหตุปะทะอีกและเหตุการณ์ยังไม่แน่นอน เลยกังวลใจ คิดแต่เรื่องมัน ถ้าเกิดเหตุยิงกันขึ้นมาอีกครั้ง แล้วต้องหนีไปศูนย์พักพิง จะอยู่ยังไง ใครจะให้อาหาร ใครจะดูแล

 

“ตอนเกิดเหตุปะทะครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ฉันต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงเกือบ 1 เดือน จำใจทิ้งสุนัขสุดรักไว้ที่บ้าน เพราะพามันไปไม่ได้ โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ช่วยหาอาหารให้ ตอนนั้นทำได้แค่ถามข่าวมันทุกวัน มาตอนนี้รายได้ลดลงจากผลกระทบสถานการณ์ชายแดน และเพื่อความปลอดภัยของสุนัข จึงตัดสินใจประกาศหาบ้านใหม่ให้น้องหมา มองหาเจ้าของใหม่ ฉันรักมันมาก แต่ถ้ามันได้อยู่กับคนที่ดูแลดี ปลอดภัยกว่า ก็ยอม ขอแค่เขารักมัน ไม่ทำร้ายมันก็พอ”น.ส.ไพริน กล่าว

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจรับเลี้ยง “น้องฮักกี้” และ “น้องคอปเตอร์” ทั้งคู่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ สุขภาพแข็งแรง ร่าเริงและชอบเล่น สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-801-9482