ตำรวจบุกทลายผับจีนลักลอบเปิดกลางกรุง พบนักท่องเที่ยวฉี่ม่วง

16 สิงหาคม 2568 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ห้วยขวาง พร้อมด้วย ตำรวจ ดส. ตม. และ ป.ป.ส.กทม. กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงในแห่งหนึ่งใน ซ.ประชาอุทิศ 11 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นที่นิยมของนักเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน พบนักเที่ยวพนักงานร้านชาย หญิง ทั้งคนไทยและต่างชาติ จำนวนกว่า 328 คน กำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดกิจกรรมทุกอย่าง และเข้าคุมสถานะการ จากการตรวจสอบโถงใหญ่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบสารเสพในนักเที่ยวชาวเวียดนาม ชายชาวจีน 1 หญิงเวียดนาม 1 คน

บริเวณชั้นลอยซึ่งแบ่งเป็นห้องวีไอพี จำนวน 4 ห้อง ห้องวีไอพี วี888 พบนักท่องเที่ยวชายชาวจีน 8 คน ห้องวีไอพี วี 999 พบนักท่องเที่ยว 17 คน แบ่งชายชาวจีน 10 คน หญิงชาวจีน 6 คน เวียดนาม 1 คน พบมีสารเสพติด เมทแอมเฟตามีน 2 คน เคตามีน 2 คน ทั้งนี้ยังพบแฮปปี้วอร์เตอร์ จำนวน 4 ซอง ตกอยู่ใกล้ตู้เก็บแก้วในห้อง เมื่อสอบถามนักท่องเที่ยวภายในห้องกลับไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บดีเอ็นเอ นักเที่ยวที่อยู่ภายในห้องเพื่อหาเจ้าของ

พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางสน.ห้วยขวางได้รับแจ้งว่า มีสถานประกอบการลักลอยเปิดให้บริการ จึงการสืบสวนจนทราบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ เป็นที่นิยมของนักเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งจากการหาข้อมูลเชื่อว่าอาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยา ประกอบกับเป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ให้กวดขันตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่ วันนี้จึงมีการร่วมปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กก.ดส , ตม. , ป.ป.ส. , โดยทาง ตม. จะมีการตรวจสอบการเข้าออกประเทศไทยของต่างชาติ ไม่ว่าจะเข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยว เบื้องต้นไม่พบผิดกฎหมาย ในส่วน ป.ป.ส. จะเป็นการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของนักเที่ยว และพนักงาน ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยมีการตรวจหาสารเสพติด  3 ชนิด เมทแอมเฟตามีน ยาอี และยาเค 

ซึ่งผลการตรวจสอบทั้งหมดพบนักเที่ยวรวมพนักงาน ชาย หญิง ทั้งคนไทยและต่างชาติ จำนวนกว่า 328 คนไทย 122 คน ชาวต่างชาติ 206 คน และจากการตรวจหาสารเสพติดทุกคนพบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย 6 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และเวียดนาม และยังพบแฮปปี้วอเตอร์อีก 4 ซอง ในส่วนผู้ที่พบสารเสพติดก็นำตัวส่งตรวจที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี เพื่อยืนยันผลตรวจอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป ส่วนทางร้านจากการตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ และไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา จึงคุมตัวผู้จัดการไปดำเนินคดี พร้อมเสนอสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฝากประชาสัมพันธ์หากพี่น้องประชาชน พบเห็นสถานที่ใดที่มีต่างชาติรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบได้ เพื่อเป็นการป้องปรามการเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรม