30 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ล่าสุดได้มีการเชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ามาให้ถ้อยคำแล้วกับคณะกรรมการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย
และจะมีการนัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะชี้แจงทุกประเด็น รวมถึงจะตอบคำถามประเด็นเกี่ยวกับเครือญาติของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีการสอบปากคำ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับพวก ไปก่อนหน้านี้นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มีความคืบหน้าไปบ้าง และหลังจากนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องเชิญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวกมาให้ถ้อยคำอีก
"บิ๊กต่าย" ย้ำยึดกฎหมายปมสั่ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กับพวก กรณีตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ และได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 โดยทางคณะกรรมการฯ ได้นัดประชุมครั้งแรกเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานไปเมื่อวานที่ผ่านมา (29 เมษายน 2567)
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในส่วนของผลการสอบสวนเรื่องดังกล่าวคงไม่มีการเสนอหรือรายงานในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการหรือ ก.ตร. ในวันนี้ เพราะเป็นวาระที่ฝ่ายเลขานุการได้กำหนดไว้คิดว่าเป็นเรื่องของการประชุม ตนคงไม่ออกมาเปิดเผยอะไร และถ้ามีการเสนอวาระก็ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ตนเองคงไม่ได้เข้าพิจารณาด้วย
ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องเรียนตนเองนั้นยืนยันว่าไม่กังวลและยังมั่นใจว่าในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ก็ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่มีอยู่ ตามที่กองวินัยได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนรายงานต้องคดีของ พล.ต.อ.สุเรชษฐ์ และเสนอความเห็นให้ตนดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 ส่วนเรื่องร้องเรียนตอนนี้มีกี่เรื่องตนยังไม่ทราบ
ส่วนความคืบหน้าคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ตนได้สอบถามความคืบหน้าจาก พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ทราบว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขั้นตอนของการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนที่ พล.ต.อ.สราวุุฒิ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ารู้สึกตกใจที่ถูกตั้งเป็นประธานคณะกรรมการฯ ทั้งที่ใกล้เกษียณแล้วนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ขออย่าใช้คำว่าตกใจ เพราะเป็นข้าราชการตำรวจก็ต้องมีหน้าที่รับภารกิจต่างๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนที่ พล.ต.อ.สราวุฒิ ไม่มั่นใจว่าจะเสร็จทันก่อนเกษียณนั้น มองว่าไม่มีคำว่ามั่นใจ เพราะเป็นเรื่องที่ประธานและคณะกรรมการต้องพิจารณาตามขั้นตอน หรือกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร.และกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงเด็ดขาด