15 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ "พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์" ผบก.สส.บช.น. สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าจับกุม น.ส.ลิตา รอดพันธ์ุ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 4 หมาย ดังนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังหลบหนีมานานกว่า 1 ปี
สำหรับพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณต้นเดือนต.ค. 2564 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังพักผ่อนและเล่นเฟซบุ๊กอยู่ที่บ้านพัก ได้เห็น น.ส.ลิตา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Lita Rodphan" ได้โพสเชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทอง
โดยใช้ชื่อทุนว่า "บ้านออมลิตา V.๓ นายทุนราย ๔ วัน" ถ้าหากลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาท ทุกวันจำนวน 4 วัน โดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250 บาท โดยเวลารับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน
ต่อมาผู้เสียหายสนใจจึงร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตา จึงโอนเงินจำนวน 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.ลิตา โดยโอนผ่านแอปธนาคาร หลังจากโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และน.ส.ลิตา ได้บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เสียหาย 4 วัน วันละ 34,250 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 137,000 บาท
ขณะที่ ต่อมาผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตา อีก เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท โดยโอนผ่านแอปของธนาคาร เมื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และน.ส.ลิตา ได้บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้ รวมเป็นเงิน 137,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงกำหนดนัดหมายคืนเงินที่ผู้เสียหายลงทุนน.ส.ลิตา ไม่ยอมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถามแต่ได้รับการผัดผ่อนเรื่อยมา และได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้และไม่สามารถติดต่อได้ การกระทำดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ลิตา ในความผิดฐาน "ฉ้อโกง และ/หรือความผิดที่เกี่ยวข้อง" จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนได้เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่อ้างว่าได้เงินไปลงทุนกับอีกท้าวแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนไปหาลูกค้ามาให้ และยังบอกว่า ตอนนี้กำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนกับผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวเตือนว่า โลกปัจจุบันที่ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จึงมีมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านการเล่นแชร์ออนไลน์ โดยจะมีการโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าได้ผลกำไรสูง ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งมิจฉาชีพมักจะทำให้ตายใจ ด้วยการจ่ายผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้เพื่อเป็นการหลอกให้ลงทุนสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บางคนถึงขั้นไปชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนอีกด้วย ซึ่งสุดท้ายมิจฉาชีพมักจะอ้างว่าธุรกิจขาดทุน มีปัญหา จึงไม่สามารถส่งเงินได้ตามปกติ พร้อมทั้งบอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งแจ้งความ สุดท้ายจะตัดการติดต่อและหลบหนีไปในที่สุด