svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานส่วยตัวท็อปให้ "บิ๊กเต่า" เตรียมแฉต่อสัปดาห์หน้า

28 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานส่วยตัวท็อปให้ "บิ๊กเต่า" ตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่ยังไม่แจ้งความ เตรียมแฉต่อสัปดาห์หน้า ด้าน "บิ๊กเต่า" ลั่นไม่เคยเลียตูดนายเติบโต ย้ำไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง

28 มีนาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด จัดการแถลงข่าว "เปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ" มีการพาดพิงตำรวจหลายนาย รวมถึงตำรวจระดับสูง และ 3 หน่วยงานของตำรวจ ได้แก่ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด, กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ โดยนัดหมาย "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ซึ่งมีหน้าที่เป็นโฆษกคณะทำงานคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ และ BNK Master เพื่อขอนักหมายในการส่งหลักฐานเส้นทางการเงินทั้งหมดให้ไปดำเนินคดี วันนี้ (28 มี.ค. 67)
ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด จัดการแถลงข่าว "เปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ"  

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ทนายตั้ม กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อนำเอกสาร หลักฐาน และเส้นทางการเงิน ที่ได้มีการแถลงข่าเปิดโปงขบวนการรับส่วย ซึ่งเชื่อมโยงพาดพิงไปถึงระดับบิ๊กตำรวจ มาส่งมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
 

ทนายตั้ม ระบุว่า วันนี้ที่ยังไม่มีการแจ้งความ ม.157 แต่เป็นการส่งมอบหลักฐาน เพื่อให้ตำรวจไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะกลัวว่าหากแจ้งความจะมีระยะเวลา 1 เดือนแล้ว แล้วต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ซึ่งก็กังวลว่า อาจจะไม่มีอะไรคืบหน้า และถูกส่งสำนวนไปแบบไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเส้นทางการเงิน 

จึงอยากให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ไปตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกเส้น ที่ได้แถลงไปก่อนหน้านี้ว่า มีการโอนเงินไปให้กับบิ๊กตำรวจ ญาติ และวัด จริงหรือไม่ และสลิปเป็นของจริงหรือไม่ แล้วทำไมต้องโอนไปทุกเดือน เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ออกมาแถลงเป็นข้อเท็จจริง ส่วนผู้กระทำความผิดก็ต้องให้ไปสืบสวนต่อ เมื่อได้เส้นเงินมาอย่างถูกต้อง จากนั้นก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหลักฐานที่นำมายื่นในวันนี้ มีทั้งเส้นทางการเงินของพิมพ์วิไล ผู้ต้องหาในคดีเว็บพนัน และข้อมูลแชทการสนทนาหลักฐานต่างๆ

ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วนเรื่องสายลับที่ให้ข้อมูลกับตนมา ก็เป็นตำรวจ แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งเขาไม่โอเคกับระบบจึงออก แต่ข้อมูลที่เขาให้มาก็คือเป็นเลขบัญชีส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนมีทีมในการทำและต้องให้ทางตำรวจที่รับเรื่องวันนี้เป็นคนขยายผลต่อ หากพบว่าเป็นข้อเท็จจริง ก็ต้องไปขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางธนาคาร และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานส่วยตัวท็อปให้ "บิ๊กเต่า" เตรียมแฉต่อสัปดาห์หน้า
 

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้รับหลักฐานจากทนายตั้ม ไว้ดำเนินการ พร้อมบอกว่า ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้จะส่งพยานหลักฐาน ที่ได้รับจากทนายตั้มไปให้ บก.ปปป.และตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน  รวมถึงตรวจสอบเส้นเงินว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง รวมถึงเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ เพื่อลงรายละเอียดในสำนวนการสอบสวน แต่สำนวนนี้จะยังไม่ส่งไปยัง ป.ป.ช.เนื่องจากทนายตั้มยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 และ 149  

และเมื่อเอกสารมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ก็จะมีการขยายผลไปตามเส้นทางการเงินต่าง ๆ ตามที่ทนายตั้มร้องขอ และจะดำเนินการควบคู่กันไป เพราะหลักฐานที่นำมาให้ก็เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครสามารถบิดเบือนประเด็นได้ จึงอยากให้สบายใจตรงนี้ และหากมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนประเด็นที่บอกว่า ตำรวจมีข้อมูลนี้อยู่แล้วหรือไม่นั้น  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า  ตนยังไม่เห็นเอกสารของทนายตั้ม จึงไม่สามารถแจ้งได้ว่า ตำรวจมีอยู่แล้วหรือไม่ ทั้งนี้ตามหน้าที่เรื่องเส้นเงินต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิดก็คือผิดถูกก็คือถูก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องเส้นเงินต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิดก็คือผิดถูกก็คือถูก พวกเรามีอาชีพตำรวจ ทำงานแบบตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เคยหนักใจอะไรที่จะทำคดีอะไร เพราะว่าเป็นหน่วยงานที่ต้องรับเรื่องจากทั่วประเทศอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้อง ไม่ต้องกลัวว่าที่นี่จะลำเอียง จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนเท่าเทียมกัน

ต้องขอขอบคุณทนายตั้ม ที่นำข้อมูลมาให้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความสะอาดบ้านตัวเอง และก็ต้องบอกว่า ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีคำนิยามว่ายศใหญ่ยศเล็กทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถเดินเข้ามาได้แค่หลักฐานอันเดียว ก็สามารถจับนักการเมืองใหญ่ ๆ ได้ วันนี้ทนายตั้มนำหลักฐานมาให้ ตนก็ดำเนินการตามหลักฐานทุกขั้นตอน ยืนยันไม่มีข้อขัดแย้งอะไรทั้งนั้น บ้านเมืองต้องอยู่ด้วยกฎหมาย
 

“ผมเติบโตมาจากการทำงานโดยเฉพาะ ไม่เคยเลียตูดนายเพื่อความเจริญก้าวหน้า ผมโตมาด้วยสองมือสองขา และสมองของผม ผมทำงานตามอุดมการณ์และตามความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ผมไม่ได้เป็นเด็กบิ๊กต่อหรือคนอื่น ๆ ทุกคนจะรู้ว่าผมทำงานเพื่อส่วนรวมมาทั้งชีวิต ผมมีอุดมการณ์ของผมที่จะเดิน ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรม”


เมื่อถามว่า ถ้าพบนายตำรวจระดับใหญ่เกี่ยวข้อง และพบความผิดจริง ไม่ว่าใหญ่แค่ไหนก็จับใช่หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ต้องบอกว่า “ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง ทุกคนเข้าไปพักผ่อนได้สบาย ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีลำเอียง ยากจกหรือขุนนาง เราเป็นตำรวจก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีใครช่วยใครเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่”
"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานส่วยตัวท็อปให้ "บิ๊กเต่า" เตรียมแฉต่อสัปดาห์หน้า

ทนายตั้ม ยังให้สัมภาษณ์ ถึงประเด็นที่วันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) ทีมทนายทนายความของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จะไปฟ้องร้องตนเองที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ฐานหมิ่นประมาท ว่า เบื้องต้นได้รับทราบแล้วและรู้ว่าใครคือทีมทนาย ซึ่งบุคคลดังกล่าวเคยฟ้องร้องกับตัวเองมาแล้ว 6 คดี แต่ศาลยกฟ้องทุกคดี พร้อมเตือนไปยัง ผบ.ตร. ขอให้คิดดี ๆ คิดใหม่ จากนั้นทนายตั้มได้พูดชื่อของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่า เป็นผู้ที่เคยฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาทกับตน และตนชนะทุกคดีแต่ไม่เคยได้รับเงินชดใช้ตามที่ศาลมีคำสั่ง โดยทนายตั้มยังฝากไปถึงนายอัจฉริยะ ให้ออกมายืนข้างประชาชนดีกว่า อย่าไปออกรับแทนตำรวจพวกนั้นเลย ให้มายืนคู่กันแฉเรื่องส่วยดีกว่า พูดเองยังขนลุกเลย

สำหรับประเด็นที่สมาคม ตนต้องบอกว่าสมาคมไม่ได้เกี่ยว แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เป็นอุปนายกที่เพิ่งจะหมดวาระไป มีการรับเงินจากบัญชีม้าสายเดียวกับบิ๊กตำรวจหลายคน  เห็นว่ารับมาตั้งแต่ปี 2020  และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเดือนละ 30,000 ถึง 50,000 บาท ตนจึงมีคำถามว่า ทำไมต้องจ่ายเป็นรายเดือน จ่ายเพื่อที่จะปิดบังเรื่องไม่ดีอะไรไปหรือไม่ 

นอกจากนี้ อยากให้จับตาดูอาทิตย์หน้าว่า ตนจะทำอะไรต่อไป แต่บอกไว้ก่อนว่าวันเสาร์นี้ (30 มี.ค.) ตนจะไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งตอน 10 โมงเช้า ถ้าว่างก็ขอเรียนเชิญนักข่าวทุกคนให้ไปอนุโมทนาบุญกับตนด้วย

จากนั้นทนายตั้ม ได้เข้าไปให้ข้อมูลกับตำรวจ นานกว่า 20 นาที และได้บอกสั้น ๆ ว่า ตอนนี้เชื่อมั่นใน พล.ต.ต.เจริญเกียรติ เพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิม 40% และจะเข้ามาให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ อีกครั้ง
"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานส่วยตัวท็อปให้ "บิ๊กเต่า" เตรียมแฉต่อสัปดาห์หน้า

logoline