ดร.นพ.มโน เลาหวณิช อดีตศิษย์เอกวัดพระธรรมกายและอดีตพระวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วมองว่า เหมือนทอมกับเจอร์รี่ หรือ หนูกับแมว คิดว่าวัดพระธรรมกายมีการข่าวที่ดีกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ รู้ข่าวก่อนใคร รู้ทิศทางเร็วกว่า แม่นยำกว่าของทางการ สมาชิกของวัดจะมีการประชุมใหญ่ เรียกว่า 3 อาศรม เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า วันจันทร์เจ้าหน้าที่จะไม่บุก และเชื่อว่าวันอังคารก็ไม่บุกเข้าไป ภาพที่ทางวัดสร้างออกมาจะเห็นคนนับแสนมาที่วัด แน่นไปหมด ขณะที่ลูกศิษย์ของวัดก็บอกว่า อย่าทำให้ตกใจ หากตกใจ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แล้วก็บอกว่า นี่ไม่ได้ขู่ แต่ขอความเห็นใจ
จะเห็นได้ว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โฆษกของอัยการสูงสุดแถลงเห็นสมควรให้สั่งฟ้องเวลา 10.00 น. แต่ทางวัดได้เรียกประชุมเวลา 08.00 น. เพราะเขารู้ก่อนแล้วว่า จะมีการสั่งฟ้อง ทำให้สามารถบริหารข้อมูลได้เป็นอย่างดีขอบอกเลยว่า กลุ่มคนที่เข้าไปในวัดพระธรรมกายนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแสนคน เป็นล้านคน อย่างที่มีการปล่อยข่าวปล่อยภาพออกมา อย่างไรก็ตาม คนส่วนหนึ่งที่เข้ามาภายในบริเวณวัดมีความตั้งใจที่จะมาปกป้องพระธัมมชโย มาด้วยความศรัทธา
เชื่อว่า หากเจ้าหน้าที่บุกเข้าไป บุคคลที่ประกาศจะนั่งปกป้องอยู่แถวหน้าจะไม่อยู่ และไม่รู้ว่าหายไปไหน และจากที่ทราบมานั้น ก่อนหน้านี้มีผู้ที่ออกมาพูดในทำนองเดียวกันก็เดินทางไปต่างประเทศแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เดินทางกลับมา จริงๆ แล้ววัดพระธรรมกายไม่ได้มีมวลชนที่ผนึกกำลังกันอย่างแน่นหนา มีแกนหลักในการชุมนุมจนถึงวันนี้ ลืมไปได้เลยว่า "พระธัมมชโย" จะออกมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ เนื่องจากไม่มีใครมาเปลี่ยนใจพระธัมมชโยได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ลั่นวาจาไว้แล้ว จะไม่มอบตัว
ยุทธการของวัดพระธรรมกายขณะนี้ก็เป็นไปในแบบยุทธการในสามก๊ก นั่นก็คือ "ขงเบ้งตีขิม" ทำราวกับว่า ไม่มีอะไร และมีความเชื่อว่า จะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน
ขณะนี้ไม่ใช่สงครามระหว่างวัดพระธรรมกายกับหน่วยงานรัฐ แต่นี่คือ วิกฤติของศรัทธา ศรัทธาในความยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความเป็นธรรมของรัฐ กับศรัทธาของผู้ที่มีในตัวของพระธัมมชโย อย่างไหนจะมีมากกว่ากัน หากสองฝ่ายมีนิติรัฐเกิดขึ้นมา แล้วมีคนที่อยู่นอกกฎหมายได้ อยู่เหนือกฎหมาย ระบบทั้งระบบพังสถานเดียว
ขณะนี้ก็ยังยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในบริเวณวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ต้องลงมืออย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่า หากเจ้าหน้าที่ของรัฐประกาศลงมืออย่างจริงจัง การเข้าถึงตัวพระธัมมชโยไม่ใช่เรื่องยาก จะไม่มีใครกล้าขัดขวางเจ้าหน้าที่