คม-ชัด-ลึก แฉ "พระคึกฤทธิ์" ทำผิดพระวินัย?

จากกรณี กลุ่มอดีตผู้สนับสนุนพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ยื่นหนังสือขับไล่พระอธิการคึกฤทธิ์ ฐานความผิดต้องอาบัติปาราชิก ตัดต่อแต่งเติมพระไตรปิฎก ฯลฯ

มานพ บุญชื่น กลุ่มพุทธพจน์จากพระไตรปิฎก (อดีตลูกศิษย์พระอาจารย์คึกฤทธิ์) กล่าวว่า เริ่มเข้าวัดนาป่าพง เมื่อปี 2555 เริ่มพบความผิดปกติของพระอธิการคึกฤทธิ์ช่วงปลายปี 2558 หนังสือที่ทำขึ้นมานั้น ขอบริจาคเงินจากญาติโยมมาทำหนังสือ บอกว่า ทำเพื่อแจกจ่ายให้ฟรี แต่กลับนำไปจำหน่ายทั้งในวัดและนอกวัด ซึ่งได้บอกท่านแล้วว่า ทำไม่ถูก แต่ท่านไม่เชื่อ เรื่องนี้มีหลักฐาน

นอกจากนี้มีอีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องที่ดิน เนื่องจากทางวัดคับแคบ จะมีการขยายพื้นที่ ก็บอกบุญกับญาติโยม ก็ได้รับบริจาคมาหลายสิบล้านบาท แต่เงินไม่เข้าวัด ทราบว่าเงินไปเข้ามูลนิธิ ทำให้ที่ดินเป็นของมูลนิธิ ไม่ใช่ของวัด ซึ่งท่านก็ยืนยันว่าไม่ผิด ทั้งๆ กรรมการบริหารก็คนละชุดกับทางวัด กรณีนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาไว้แล้ว

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ท่านทำไม่เหมาะสมกับผู้เป็นพระสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ได้มีการยื่นร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบลแล้วทั้งนี้ ที่ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าว เป็นเพราะต้องการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา

ณัฐนันท์ สุดประเสริฐ นักวิชาการด้านกฎหมายและพระพุทธศาสนา กล่าวว่า การตรวจสอบพบความผิดปกติในทางธรรมก่อน โดยพบว่า มีการสอนบิดเบือนและปรากฏในโลกโซเชียล และเว็บไซต์ชื่อดัง มีการจวบจ้วงทำลายพระไตรปิฎก ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกทั้งมีการกล่าวจาบจ้วงถึงการสวดอภิธรรมอีกด้วยพระไตรปิฎกที่ใช้กันมาในไทยทุกวันนี้ ฉบับปัจจุบัน สร้างโดย รัชกาลที่ 7 หลังจากที่มีใช้กันมาตั้งแต่พุทธกาล แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ หมวดพระวินัย พระสุตตันตปิฎก และหมวดพระอภิธรรม แต่พระอธิการคึกฤทธิ์กลับตัดหมวดพระอภิธรรมออกไป โดยให้เหตุผลว่า เป็นคำ "สาวก" ไม่มีประเทศใดเอาด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่มีมูลความจริง

นั่นหมายถึง พระอธิการคึกฤทธิ์ไม่เชื่อในพระสาวกที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้าพระอธิการคึกฤทธิ์ใช้หลักว่า ถ้ามีคำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เท่านั้น จึงจะเป็นคำของพระพุทธเจ้า ซึ่งท่านคิดของท่านเองคนเดียว เพราะจริงแล้ว ไม่ใช่พระไตรปิฎกจากที่มี 45 เล่ม แต่หลังจากพระอธิการคึกฤทธิ์ นำมาทำเป็นฉบับพุทธวัจนของตัวเองเหลือ 33 เล่ม จากนั้นมีการตัดทอนออกอีก โดยนำมาสอนเพียง 10 พระสูตร และยังตัดพระสูตรออกเหลือพระสูตรละ 1 บรรทัด

การกระทำดังกล่าว ขาดความชอบธรรม เป็นการคัดลอกมาแล้วตัดออก ตัดต่อใหม่ ไม่ได้ทำขึ้นมาเอง ไม่ใช้ความพยายามของตัวเองเลย มีทั้งแต่งใหม่ ตัดออก เพิ่มเติม และใช้คำพูดของตัวเอง การตัดออกไป การเพิ่มเติม ทำให้ความหมายผิดไป นอกจากนี้ยังมีการบิดเบือนคำสอน สรุปก็คือ มีทั้งลอกแล้วตัด ลอกแล้วเติม ลอกแล้วเปลี่ยนแปลงแก้ไข ซึ่งถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่างหาก ทั้งนี้ ได้มีการร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ทราบผลการสอบสวน

ทั้งนี้ ผู้ดำเนินรายการพยายามติดต่อพระอธิการคึกฤทธิ์ เพื่อให้ชี้แจง ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่ขอชี้แจงในรายการ ขอไปชี้แจงในกระบวนการยุติธรรม